fbpx

สธ.ประชุมคอนเฟอเรนซ์ป้องกันไวรัสซิกา ยันไทยไม่ใช่พื้นที่ระบาด

สธ. 5 ก.ย. – ปลัด สธ.ยืนยันไทยไม่ใช่พื้นที่แพร่ระบาดของโรคซิกา พบผู้ป่วยประปราย สามารถควบคุมได้ แต่ยังต้องติดตามและศึกษาข้อมูลร่วมกับองค์การอนามัยโลกอย่างต่อเนื่อง


นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ป้องกันการระบาดของไวรัสซิกาว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทุกพื้นที่ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ทั้งในบ้าน วัด และโรงเรียน หลังพบว่าดัชนีลูกน้ำยุงลาย จากเดิมที่ลดลงเหลือร้อยละ 10  ขยับขึ้นมาเป็นร้อยละ 60

ทั้งนี้ ต้องเข้าใจโรคซิกา เกิดจากยุงลายเป็นพาหะ จึงอยากให้ช่วยเร่งกันกำจัด เพื่อตัดวงจรการเกิด 3 โรค ทั้งไข้เลือดออก ซิกา ชิคุนกุนยา และควรมีการทายากันยุงในกลุ่มเสี่ยง หญิงตั้งครรภ์ หญิงวัยเจริญพันธุ์


ส่วนการติดตามการแพร่ระบาดของโรคพบว่า ยังมีบัญชีหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องติดตาม เนื่องจากอยู่ในพื้นที่พบโรคซิกา 24 คน ส่วนก่อนหน้านี้อีก 6 คน คลอดแล้ว และพบว่าเด็กเป็นปกติดี ไม่มีศีรษะเล็ก แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ทราบสาเหตุของภาวะศีรษะเล็กหลังคลอดที่พบปีละ 200-300 คน จึงจะจัดให้มีการทำคู่มือสำรวจความพิการในทารก ซึ่งครอบคลุมโรคซิกาด้วย แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาเด็กศีรษะเล็กในไทยไม่ได้เกิดจากไวรัสซิกา เพราะปัจจัยของเด็กศีรษะเล็กมาจากแม่ดื่มเหล้า แม่ติดเชื้อโรคบางชนิด

5-9-2559 15-24-17 5-9-2559 15-25-23

นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมี 4 จังหวัดที่ต้องติดตามการแพร่ระบาดของโรค ได้แก่ เชียงใหม่ จันทบุรี บึงกาฬ และเพชรบูรณ์ พร้อมยืนยันไทยไม่ใช่พื้นที่แพร่ระบาดของโรคซิกา เนื่องจากมีการพบผู้ป่วยประปรายและสามารถควบคุมได้ แต่ยังต้องติดตามและศึกษาข้อมูลร่วมกับองค์การอนามัยโลกอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ข้อมูลเกี่ยวกับซิกายังมีน้อย ทราบเพียงว่าสายพันธุ์ที่พบในไทยเป็นสายพันธุ์ไทย สายพันธุ์เอเชีย


ส่วนสาเหตุที่กระทรวงฯ ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยหรือต้องสงสัย เนื่องจากไม่อยากให้เพ่งเล็งตัวเลข หวั่นจะเกิดความตื่นตระหนก เพราะไทยแค่ประปราย และมีมาตั้งแต่ปี 2555 แล้ว

ขณะที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งพบหญิงชาวเมียนมาร์ท้อง 8 เดือน ป่วยโรคไวรัสซิกา เจ้าหน้าที่ได้เข้าฉีดพ่นหมอกควันรอบบ้าน และแพทย์นัดตรวจอีกครั้งช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553