พ่อแม่เด็ก 2 ขวบเสียชีวิตในไร่อ้อย คาใจผลชันสูตรลั่น! ไม่เผาศพลูก

สำนักข่าวไทย 27 ธ.ค. – พ่อแม่ “น้องต้าแง” เด็กชายวัย 2 ขวบเสียชีวิตในไร่อ้อย จ.สุพรรณบุรี ยังติดใจผลการพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช ลั่นไม่ยอมเผาศพลูกจนกว่าความจริงจะปรากฎ





จากกรณีที่ นายผิว อายุ 26 ปี และนางมอ อายุ 20 ปี บิดามารดาของเด็กน้อย ด.ช.ซูลุย ผิว หรือ น้องต้าแง วัย 2 ขวบ 1 เดือน ที่เสียชีวิตในไร่อ้อยใน จ.สุพรรณบุรี ยังคงติดใจผลการพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ลั่นไม่ยอมเผาลูก จนกว่าความจริงจะปรากฏ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งศพไปพิสูจน์อีกครั้งยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม


ผช.ศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ ผู้อำนวยการกองสารพันธุกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานผ่าพิสูจน์ศพ ด.ช.ซูลุย ผิว กล่าวว่า ได้รับการประสานมาจากทางพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 ธ.ค.) จึงมีคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิสูจน์ ประกอบด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ 3 คน พร้อมจะเชิญเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี ตอนนี้ทั้ง 2 สถาบันตอบรับแล้ว รอเพียงตกลงวันนัดหมาย เมื่อได้แล้วจะรีบดำเนินการทันที โดยได้รับการกำชับมาว่าต้องเร่งดำเนินการให้ทราบผลโดยเร็วที่สุด

พร้อมกับได้ประสานขอข้อมูลผลการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ระบุว่า ร่างกายไม่มีร่องรอย หรือบาดแผล กระดูกไม่แตกไม่หัก กะโหลกไม่มีร่องรอยการยุบ เสื้อผ้าสวมใส่ปกติไม่พบคราบเลือด แพทย์ระบุเสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม โดยการผ่าพิสูจน์ครั้งที่ 2 จะเน้นความสำคัญไปที่การคลายข้อสงสัยของพ่อแม่

ส่วนขั้นตอนการพิสูจน์จะต้องมีการถ่ายภาพรังสีคอมพิวเตอร์เพื่อสแกนร่างกายทั้งหมด เพื่อดูประเด็นที่พ่อแม่สงสัย ไม่ว่าจะเป็นรอยยุบที่กะโหลกศีรษะ หรือรูปขาที่บิดเบี้ยว ก่อนที่จะทำการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนสภาพศพตอนนี้ยังไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง แต่จากที่ได้รับรายงานถือว่ามีความเน่าสลายพอสมควร  

ส่วนประเด็นที่พ่อแม่สงสัยเรื่องกระดูกขาที่ผิดรูปบิดเบี้ยว แต่ทางโรงพยาบาลตำรวจแจ้งผลว่าไม่มีร่องรอยการทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากการย่อยสลายของเนื้อเยื่อของข้อต่อ  เรื่องนี้ ผช.ศ.นพ.วรวีร์  ระบุว่า ตามทฤษฎีแล้วมีโอกาสเกิดขึ้นได้ กระดูกแต่ละส่วนจะมีการเชื่อมต่อด้วยเนื้อเยื่อและเส้นเอ็น ถ้ามีมีการเน่าสลายก็ทำให้กระดูกที่พบผิดรูปไปได้ เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร ต้องผลการถ่ายภาพรังสี น่าจะทำใหิพอทราบผลได้ โดยจะเร่งดำเนินการได้เร็วที่สุด เมื่อได้วันนัดครบทุกหน่วยงาน น่าจะทราบผลได้ภายใน 1 สัปดาห์ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง