สุวรรณภูมิ ปล่อยแถวพร้อมต้อนรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ คาดเฉลี่ยวันละ 200,000 คน

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. – ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จัดพิธีปล่อยแถวระดมเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมในการต้อนรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 200,000 คน 


น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เป็นประธานในพิธี ปล่อยแถวเตรียมความพร้อมในการต้อนรับผู้โดยสารในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ประจำปี 2562 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พีรยุทธ์   การะเจดีย์ ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พ.อ.ยอดยศ เก็บเงิน รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 112 ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เมืองสุวรรณ โดยมี กำลังพลเจ้าหน้าที่ทสภ. และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ปฏิบัติงาน ณ ทสภ. อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยว กองพลทหารราบที่ 11 ฯลฯ  กว่า 400 คน เข้าร่วมในพิธี ฯ


น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2561 – 5 มกราคม 2562 (รวม 12 วัน) จะมีจำนวนผู้โดยสารในภาพรวม ที่เดินทางผ่าน ทสภ. รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.4 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 200,000 คน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทสภ. จะมีจำนวนผู้โดยสารในภาพรวมที่เดินทางผ่านเข้า-ออก เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.86 และในส่วนของเที่ยวบินคาดว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีเที่ยวบินให้บริการรวมทั้งสิ้นประมาณ 13,245 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 1,104 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.33  โดยมีสายการบินประจำขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ (Extra Flight) และสายการบินเช่าเหมาลำจำนวน 18 สายการบิน มีจำนวนทั้งสิ้น 276 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 124 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 152 เที่ยวบิน ซึ่งสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุด 3 อันดับแรก คือสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ จำนวน 106 เที่ยวบิน สายการบิน ไทย เวียตเจ็ท แอร์ จำนวน 37 เที่ยวบิน และสายการบิน ไทยสมายล์ จำนวน 34 เที่ยวบิน 

ทั้งนี้ ทสภ. ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร หรือ Airport Operation Center: AOPC เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ณ ห้อง CIP 5 บริเวณชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2561 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 4 มกราคม 2562 เวลา 24.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9950 โดยภายในศูนย์ฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ ทสภ. ประจำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการให้บริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ทสภ.ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความพร้อมในการรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว อาทิ การจัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการ การเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและแนะนำผู้โดยสารก่อนเข้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ เป็นต้น เพื่อให้การบริการผ่านเข้า – ออกของผู้โดยสารเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว

นอกจากนี้ ทสภ.ยังมีการประสานการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยได้รับความร่วมมือจากกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสาร สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ในการจัดเตรียมกำลังพลให้พร้อมบริการผู้โดยสารในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด


น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ ทสภ.จึงได้ยกเว้นค่าจอดรถให้ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันศุกร์ที่  28 ธันวาคม 2561 ถึงเวลา 17.00 น. ของวันพุธที่ 2 มกราคม 2562 ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้ 718 คัน ทั้งนี้ ทสภ.  ได้จัดรถ Shuttle Bus สายพิเศษ เพื่อให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารระหว่างบริเวณลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C กับอาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ซึ่งจะรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 5 ลงไปที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 ประตู 5 กลับไปที่ลานจอดรถระยะยาว โซน C ตามลำดับ นอกจากรถ Shuttle Bus สายพิเศษที่ ทสภ. จัดเตรียมให้แล้ว ยังมีรถ Shuttle Bus สาย A (สายปกติ) ที่วิ่งให้บริการรับ – ส่งผู้โดยสารจากศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ตามลำดับไปยังลานจอดรถระยะยาว โซน C เพื่อรับผู้โดยสารไปส่งยังอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 3  และประตู 8 และขึ้นไปที่ชั้น 2 ประตู 5 กลับไปยังศูนย์ขนส่งสาธารณะ (Bus Terminal) ตามลำดับ โดยผู้ใช้บริการรถ Shuttle Bus ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริหารการขนส่ง ทสภ. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2132 -9511-12 และ AOT Contact Center โทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]