สุพรรณบุรี 23 ธ.ค. – จากกรณี ด.ช.ซูลุย ผิว เด็กชาวพม่า วัย 2 ขวบ 1 เดือน สูญหายไปนานกว่า 6 วัน ในไร่อ้อย ม.9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จนถึงวันนี้ยังตามหาไม่เจอ ทางครอบครัวซึ่งเป็นคนงานตัดอ้อยชาวเมียนมา พ่อแม่ ตายาย ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ ล่าสุดทาง จ.สุพรรณบุรี ได้เร่งนำกำลังตำรวจ ทหาร ปกครอง กู้ภัย มาช่วยกันปฏิบัติภารกิจออกตามหาในครั้งนี้ ทั้งภาคอากาศ พื้นดิน และค้นหาในบ่อน้ำทุกจุด เบื้องต้นยังไม่พบเด็ก
นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมวางแผนปฏิบัติการภารกิจนี้ ด้วยการตั้งกองบัญชาการ ณ บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยสั่งการด้วยตัวเอง ด้านภาคอากาศได้ประสานเฮลิคอปเตอร์จากกองการบินตำรวจ บินสำรวจพื้นที่ไร่อ้อยแล้ว และมีอุปกรณ์โดรนจากสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี พารามอเตอร์จากภาคประชาชน สนับสนุน มีกำลังจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 17 จนท.ชุดประดาน้ำ มูลนิธิเสมอกันสุพรรณบุรี มีโรงครัวพระราชทานประกอบอาหารให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน มีจิตอาสา ชาวบ้าน มูลนิธิกระจกเงา ส่งเจ้าหน้าที่และนำสุนัขมาร่วมค้นหาด้วย ขณะนี้รวมกว่า 300 ชีวิต ซึ่งยังคงระดมค้นหาตลอด 24 ชม. ล่าสุดได้ประสานขออุปกรณ์เรือท้องแบนขนาดใหญ่ พร้อมรถแบ็กโฮ จาก ปภ. เพื่อสนับสนุนภารกิจในการค้นหาใต้น้ำ พร้อมนำชุดประดาน้ำ ลงไปดำน้ำค้นหาตามบ่อน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงทุกจุด ระยะทางของบ่อห่างจากจุดเกิดเหตุ 1-2 กม. จนถึงเวลา 23.30 น.วันที่ 22 ธ.ค. ในทุกภารกิจการค้นหายังไม่พบตัวเด็ก ส่วนการดำเนินการ เรายังเดินหน้าต่อ
ส่วนประเด็นการสูญหายไปในครั้งนี้ของเด็กน้อยวัย 2 ขวบ 1 เดือน ว่าสูญหายไปได้อย่างไร ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไป โดยแต่ละวันมีความคืบหน้าเรื่องประเด็นต่างๆ มากมาย เช่น ประเด็นการพลัดหลงในไร่อ้อย เพราะผีบังตา ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายสง่า สระศรีสม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เล่าว่า เรื่องนี้ในหมู่บ้านเคยเกิดเหตุการณ์ขึ้น เมื่อมีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่าเคยมีคนงานไร่อ้อยพลัดหลงในไร่อ้อยเป็นเวลากว่า 5 วัน จากนั้นก็ได้ทำพิธีทางความเชื่อเอาเหรียญครุฑไปปักดินใต้ต้นแจงในไร่อ้อย จากนั้นก็ออกมาได้ เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมา และเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนประเด็นอื่นๆ อยากให้เป็นเรื่องของตำรวจดีกว่า
จากการประชุมทั้งทีมชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อหาแนวทางความคืบหน้าของเรื่องนี้ หลังประชุมแล้วได้ตั้งประเด็นหลักๆ เพื่อดูหลักฐาน พยาน แต่ก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพิสูจน์ทุกข้อสันนิษฐาน และข้อเท็จจริงทุกประเด็น ทั้งประเด็นการพลัดหลงในไร่อ้อย เรื่องสัตว์มีพิษ การลักพาตัว และเรื่องอุบัติเหตุ
และเมื่อเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาในส่วนบ่อน้ำทุกจุด และการปูพรมเดินเท้ายังไม่พบเด็ก และจะเริ่มภารกิจปฏิบัติการค้นหาใหม่ในวันอาทิตย์ที่เข้าสู่วันที่ 7
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (23 ธ.ค.) ที่เพนียดคล้องช้างอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางวังช้างแลเพนียดได้เตรียมส่งช้าง 4 เชือก พร้อมควาญช้างไปยังพื้นที่ ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อเข้าร่วมค้นหา ด.ช.ซูลุย ที่หายตัวไปในป่าอ้อย โดยทางวังช้างแลเพนียดจะใช้ช้างเดินไปในป่าอ้อยเพื่อเปิดทางให้กับทีมค้นหาได้เข้าไปค้นหาได้ง่ายขึ้น โดยช้างจะเดินในแนวราบ โอกาสที่จะเหยียบเด็กนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และจะมีควาญช้างคอยมองตลอดเวลา หากยังไม่พบเด็ก ในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม จะส่งช้างเพิ่มไปอีก 6 เชือก เพื่อร่วมค้นหา ด.ช.ซูลุย ซึ่งตนเองมีหลานชายอายุไล่เลี่ยกับ ด.ช.ซูลุย รู้สึกสงสารครอบครัวของ ด.ช.ซูลุย จึงได้นำช้างไปช่วยในครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย