กอน.เตรียมข้อมูลก่อนหารือปัญหาน้ำตาลกับบราซิล กลางเดือนนี้

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – กอน.เร่งสรุปข้อมูลเตรียมแจงรมต.เกษตรบราซิล 13-14 ก.ย.นี้ หวังยุติฟ้องไทยอุดหนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลต่อ WTO


นายสมศักดิ์ จันทรรวงทอง เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวในการเปิดเวทีประชาพิจารณ์ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาล(ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งมีตัวแทนชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาลผู้ผลิตเอทานอลและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยระบุว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากทูตไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ว่า ตามที่ประเทศบราซิล ผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับหนึ่งของโลกเห็นว่า ประเทศไทยอุดหนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลและส่งออกน้ำตาลจนอุตสาหกรรมน้ำตาลของประเทศบราซิลได้รับผลกระทบ ขณะนี้ มีการเคลื่อนไหวที่จะดำเนินการเพื่อนำไปสู่การฟ้องดคีประเทศไทยต่อองค์การการค้าโลก(WTO)โดยอาจจะฟ้องต่อคณะผู้พิจารณา(Panel) ในวันที่ 15 กันยายนนี้

ดังนั้นในวันที่ 12 กันยานยนนี้ นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะประธานคณะกรรมอ้อยและน้ำตาล(กอน.)จึงเรียกประชุมเพื่อสรุปข้อมูลการปรับโครงสร้างอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบรวมถึงการแก้พรบ.อ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อเตรียมนำข้อมูลไปชี้แจงทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีเกษตรประเทศบราซิล ที่จะนำคณะผู้แทนชาวไร่อ้อยบราซิล 35 คน เดินทางมาเยือนประเทศไทยในระหว่างวันที่13-14 กันยายนนี้ เพื่อเข้าพบและหารือกับพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  โดยสำนักงานอ้อยฯ หวังว่า จะช่วยให้ประเทศบราซิลเข้าใจอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยและอาจนำไปสู่การยุติการฟ้องร้องต่อ WTO ได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายบราซิลแจ้งมาว่า แม้บราซิลเดินเรืองจนถึงขั้นฟ้องต่อคณะผู้พิจารณา(Panel)แล้ว ทางบราซิลยินดียังเปิดการเจรจากับไทยได้


สำหรับการแก้ไข พรบ.น้ำตาลทรายที่เกี่ยวข้องกับ WTO ได้แก่เรื่องที่ประเทศบราซิลมองว่า เป็นการประกันราคา จะมีการแก้ไขมาตรา 56พรบ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 เนื่องจากเดิมกำหนดให้ในกรณีราคาอ้อยขั้นต้นสูงกว่าราคาอ้อยขั้นสุดท้ายชาวไร่อ้อยไม่ต้องจ่ายเงินคืนเสมือนเป็นการประกันราคาอ้อยให้กับชาวไร่อ้อย ซึ่งอาจขัดต่อข้อตกลง WTO จึงแก้ไขใหม่ โดยให้นำส่วนต่างที่เกิดขึ้นไปหักออกจากราคาอ้อยในฤดูการผลิตปีถัดไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนด แก้ไขมาตรา 57 มีการยกเลิกเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อให้เป็นไปตามกรอบของ WTO ในเรื่องการอุดหนุนสินค้า มีการแก้ไขมาตรา 9 โดยจะยกเลิก เรื่องการกำหนดราคาขายน้ำตาลภายในประเทศ จากที่ปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้กำหนดราคาจำหน่ายทั้งราคาหน้าโรงงานและราคาขายปลีก แก้ไขมาตรา 19 แก้ไขใหม่ ให้ตรงกับข้อกำหนดของ WTO ในเรื่องการห้ามการนำเข้าน้ำตาลทราย  แก้ไขมาตรา 20 แก้ไขให้การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 80และไม่เกินร้อยละ 90 ของประมาณการรายได้เพื่อไม่ให้ราคาอ้อยขั้นสูงมากเกินกว่าความเป็นจริง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยกเลิกโควตาน้ำตาล จากเดิม แบ่งเป็น โควตา ก โควตา ขและ โควตา ค มาปรับเปลี่ยนเป็นการสตอกให้เพียงพอต่อดารบริโภคแทน ปัจจุบัน น้ำตาลทรายแบ่งเป็น โควต้า ก ผลิตเพื่อใช้บริโภคภายในประเทศ ตามปริมาณที่ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายจะกำหนดในแต่ละฤดูการผลิตน้ำตาลทรายโควต้า ข  ผลิตเพื่อการส่งออกไปยัง ต่างประเทศ ส่วนน้ำตาลทรายโควต้า ค ผลิตเพื่อการส่งออกได้ หลังจากที่ โรงงานผลิตน้ำตาลทรายได้ครบตามปริมาณที่จัดสรรให้ตามโควต้า ก และ โควต้า ข – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว