เสนอใช้เคอร์ฟิวแก้ปัญหาอาชญากรรมในเยาวชน

กทม. 20 ธ.ค.-ปัญหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ หรือข่มขืน ไม่ว่าจะในหญิงหรือชาย หนุ่มสาว หรือสูงวัย นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างพยายามหาทาง แต่ปัญหายังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น จนนำมาสู่แนวคิดกลับไปใช้การเคอร์ฟิว


ยังคงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าสำหรับปัญหาความรุนแรงทางเพศ ล่าสุดมีคดี 5 โจ๋รุมโทรมเด็กสาว 12 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสังคมไทยนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากศูนย์ช่วยเหลือสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยสถิติการรับแจ้งกรณีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60-29 ส.ค.61 มีเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศจำนวนทั้งสิ้น 419 คน ในจำนวนนี้ถูกกระทำจากบุคคลในครอบครัว จำนวน 151 คน

สอดคล้องกับข้อมูลจากมูลนิธิปวีณา สถิติการร้องเรียนเรื่องข่มขืนอนาจาร ในปีนี้ 768 ราย จากตัวเลขพบว่าปี 61 มากกว่าปี 60 ถึง 21% ผู้เสียหายอายุน้อยสุดเด็กหญิงวัย 1 ขวบ 6 เดือน มากสุดหญิงชรา อายุ 78 ปี


จากการรวบรวมสถิติข่าวความรุนแรงทางเพศปี 60 ในหนังสือพิมพ์ 13 ฉบับ โดยมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พบเกิดเหตุความรุนแรงทางเพศมากถึง 317 ข่าว ช่วงอายุของผู้ถูกกระทำเกินครึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 5-20 ปี ถึง 60.6% รองลงมาอายุ 41-60 ปี 30.9% ที่น่าเศร้าคือ มีผู้เสียชีวิต 20 ราย กลุ่มที่ถูกกระทำมากที่สุดคือ นักเรียน นักศึกษา กว่า 60% ที่น่าตกใจคือ คนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นญาติ หรือเพื่อน เป็นกลุ่มที่กระทำความรุนแรงมากที่สุด ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าสถานการณ์นี้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง แม้ทุกฝ่ายจะพยายามอย่างหนักในการรณรงค์

จากกรณีโจ๋รุมโทรมนำมาสู่แนวคิดนำการเคอร์ฟิวกลับมาใช้ หวังคุมพฤติกรรมเด็ก ประเด็นนี้กระทรวงศึกษาธิการระบุว่า ปัจจุบันตำรวจได้ใช้มาตรการนี้อยู่แล้ว หลัง 22.00 น. มีอำนาจนำตัวเด็กและเยาวชนที่ออกมาที่สาธารณะมาไว้ที่สถานีตำรวจ และโทรเรียกผู้ปกครองมารับ แต่ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ มีพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษามีอำนาจสุ่มตรวจได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกเท่านั้น จึงเตรียมแก้กฎกระทรวงฯ เพิ่มอำนาจเทียบเท่าให้สามารถตรวจค้นได้ทุกเวลาและทุกสถานที่

แม้แนวคิดนี้ยังหาข้อสรุปลงตัวตรงกลางไม่ได้ แต่สิ่งที่พอจะช่วยให้ปัญหาลดลงได้คือ ไม่ใช่แค่การที่ผู้หญิงต้องปกป้องตัวเองได้เท่านั้น แต่ต้องสร้างความเข้าใจและปรับฐานคิดให้ผู้ชายเรียนรู้ในการเคารพ ให้เกียรติใช้ชีวิตร่วมกับผู้หญิง ที่สำคัญสังคมต้องไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรง หรือมองความรุนแรงเป็นเรื่องของคนอื่น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว