กรุงเทพ ฯ 19 ธ.ค. – หุ้นไทยบวก 17.93 จุด แรงซื้อกลุ่มแบงก์ หลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามคาด ขณะที่เฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยช้าลง
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,601.12 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด หรือร้อยละ 1.13 มูลค่าการซื้อขาย 45,167.91 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,601.17 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,578.64 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรงตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มอ่อนค่า เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 62 จากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้ง ลดคาดการณ์ลงมาเหลือ 2 ครั้ง หลังจากที่การประชุมเฟดในคืนวันนี้จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า
นอกจากนั้น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาเป็นร้อยละ 1.75 ตามที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และช่วยทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นมาแรง
ประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 916.58 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 71.82 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 727.06 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 117.70 ล้านบาท
ด้านบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้คงมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่จำกัด เนื่องจากการส่งผ่านต้นทุนการเงินไปยังภาคเศรษฐกิจจริงคงอยู่ในระดับที่น้อยกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.ที่ร้อยละ 0.25 เพราะสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากและตั๋วแลกเงินของไทยเดือนตุลาคมของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศของไทย 14 แห่งอยู่ที่ร้อยละ 86.7 ขณะที่ระดับสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์มีสูงถึงเกือบ 4 ล้านล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับอุปสงค์การเติบโตของสินเชื่อในระยะข้างหน้า ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์คงจะพิจารณาให้เหมาะสมกับอุปสงค์การกู้ยืม ความสามารถของการชำระหนี้โดยรวมของลูกหนี้ รวมทั้งต้นทุนของเงินฝากที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นไปอย่างไม่ต่อเนื่อง โดยมองว่า กนง.น่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระยะข้างหน้าอย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้คงเป็นไปในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง โดย กนง.คงจะประเมินความพร้อมของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 .-สำนักข่าวไทย