ป้ายหาเสียงใส่รูปได้เฉพาะผู้สมัคร- หัวหน้าพรรค- คนชิงนายกฯ

ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 19 ธ.ค.- กกต.พร้อมรับข้อเสนอพรรคการเมือง เพื่อออกระเบียบที่จะใช้เลือกตั้ง ส.ส.  ชี้ป้ายหาเสียงใส่รูปได้แค่ผู้สมัคร หัวหน้าพรรค คนชิงนายกฯ และสมาชิกเท่านั้น พร้อมตั้งวอล์รูมควบคุมการใช้สื่อโซเชียล อนุญาตใช้หุ่นยนต์หาเสียง ปิดตายข้อเสนอเบอร์เดียวทั้งประเทศ ย้ำเปิดรับผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งที่มาตามแนวทาง กกต.  


ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุมร่วมกับ 77 พรรคการเมือง เรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. ป้ายหาเสียง และการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ว่า เรื่องค่าใช้จ่ายเลือกตั้งที่ประชุมเสนอเรื่องการกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายผู้สมัครแบบแบ่งเขต ตั้งแต่ 2 แสน จนถึง 2 ล้านบาท โดยการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายสูงสุดเป็น 2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แสนบาท เพราะคำนึงจากค่าครองชีพที่เปลี่ยนไป และคำนึงถึงความเป็นธรรมในกรณีพรรคเล็กด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในระบบบัญชีรายชื่อ หรือ ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรค ที่กำหนดตามจำนวนผู้สมัครและเป็นไปตามกรอบกฎหมาย 

ประธาน กกต. กล่าวว่า เรื่องสถานที่ ขนาด จำนวนป้ายหาเสียง และสถานที่ปิดประกาศ กกต.จะพิจารณาให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว ซึ่งบางพรรคเห็นว่าจำนวนแผ่นป้ายหาเสียงควรลดลง และยังได้หารือถึงเรื่องรถหาเสียง หรือโมบายยูนิต รถเคลื่อนที่หาเสียง รถสี่ล้อ และรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่ง กกต.จะนำเรื่องป้ายหาเสียงที่ปิดในยานพาหนะเคลื่อนที่ไปพิจารณา รวมถึงข้อเสนอที่พรรคการเมืองเห็นว่านอกจากสถานที่สาธารณะที่ กกต.กำหนดให้ติดป้ายแล้ว ควรจะอนุญาตให้ติดป้ายที่ศูนย์ประสานงานพรรคการเมืองได้ด้วย ซึ่งการที่ กกต.กำหนดขนาดของป้ายหาเสียงเป็นไปตาม มาตรา 83 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 


นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนการหารือเรื่องหาเสียงของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทางพรรคการเมืองและสื่อมวลชน ได้สอบถามหลายเรื่อง เช่น การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมแค่ไหน การใช้หุ่นยนต์หาเสียง ซึ่ง กกต.อนุญาตให้ใช้หุ่นยนต์หาเสียงได้และเชื่อว่าจะเป็นสีสันในการเลือกตั้งครั้งนี้  นอกจากนี้พรรคการเมืองยังเสนอ วิธีการให้แจ้งเกี่ยวกับการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ การควบคุม การป้องกันการใช้แอ๊คเค้าท์ปลอมเพื่อมาใส่ร้ายจะดำเนินการอย่างไร การขอให้ กกต.ตั้งคณะทำงานเพื่อให้พรรคการเมืองสามารถแจ้งเรื่องต่าง ๆ ได้โดยตรง ขอให้ กกต.ชี้แจงให้ชัดเจนถึงการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีวอร์รูมเพื่อดูแลและชี้แจงมีการใส่ร้าย รวมทั้งการจัดงบให้ความรู้เรื่องการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ให้กับทุกพรรคการเมือง 

ประธาน กกต. กล่าวว่า ข้อเสนอต่าง ๆ เหล่านี้จะนำไปประกอบการตัดสินใจของ กกต.ในการออกระเบียบต่าง ๆ คาดว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนปีใหม่ เบื้องต้นยังมีระเบียบที่ค้างการพิจารณา 8 ฉบับ  เรื่องวอร์รูม กกต.จะเร่งพิจารณาประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่นอกจากจะติดตามการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียแล้ว ยังอาจใช้วอร์รูมดังกล่าวสำหรับแจ้งเหตุทุจริตด้วย ส่วนข้อเสนอของสื่อที่ขอให้ กกต. เสนอไปยัง คสช. ยกเลิกคำสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเสนอข่าวในช่วงการเลือกตั้ง นั้น สื่อและพรรคการเมืองสามารถแจ้ง คสช.ได้เอง

นายอิทธิพร ยังกล่าวว่า  ในที่ประชุมวันนี้ไม่มีการเสนอเรื่องเบอร์เดียวทั่วประเทศ ดังนั้น กกต.จะยึดตามมติที่ได้พิจารณา รวมทั้งเรื่องบัตรเลือกตั้ง และไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.ที่จะไปขอให้ คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 พิจารณาเรื่องเบอร์เดียวทั่วประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา เราไม่พิจารณา กกต.มีหน้าที่จะต้องจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ


ประธาน กกต. ยังกล่าวถึงป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ป้ายหาเสียงสามารถจะใส่รูปผู้สมัคร หัวหน้าพรรค และบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกพรรค ซึ่งบุคคลที่ไม่เกี่ยวไม่สามารถนำรูปมาใส่ในป้ายหาเสียงได้ 

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงการขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ กกต.ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ปี 2546 จะต้องเข้ามาตามแนวทางของ กกต. ที่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ ไม่มีเหตุที่จะต้องยุติแนวทางปฏิบัติที่เคยทำมา กกต.จะทำต่อไป และจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งท่าทีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีผลต่อ กกต. 

“การสังเกตการณ์การเลือกตั้ง การเสนอรายงานที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราไม่ได้มองเรื่องศักดิ์ศรี เพราะผมเป็นคนจัดการเลือกตั้งไม่มีแนวทางเรื่องการห้ามมาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ภาวะทางการเมืองไม่ใช่เรื่องรับผิดชอบของ กกต. จึงไม่ปิดกั้นการเข้ามาตามแนวทางที่เราปฏิบัติ” นายอิทธิพร กล่าว และว่าขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง จึงยังไม่มีองค์กรใดขอเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง 

เมื่อถามว่า อียู ซึ่งเคยไปดูการเลือกตั้งในประเทศอื่นแล้วมาเสนอรายงานวิพากษ์วิจารณ์ นายอิทธิพร กล่าวว่า การเข้ามาต้องดูขนาดและจำนวน ซึ่งองค์กรที่เข้ามาต้องไม่มีเงื่อนไขและพร้อมทำตามระเบียบ  อะไรที่มากกว่านั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]