ชลบุรี 18 ธ.ค.- เจ้าคณะ อ.บางละมุง ทำทัณฑ์บนเจ้าอาวาสวัดไม่ให้ชาวบ้านนำศพไปบำเพ็ญกุศล แต่เอาศาลาให้คนต่างถิ่นที่มาก่อนเช่าพักผ่อน เหตุบริหารจัดการ ไม่ถูกต้อง
จากกรณีที่เป็นข่าวคราวครึกโครมที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Somkiat Pinyosiripan โพสต์คลิปวีดีโอการโต้เถียงระหว่างญาติผู้เสียชีวิตกับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่ บ้านชากแง้ว ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยระบุว่า ชาวบ้านจะนำศพมาบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม กลับไม่ยินยอม แต่ในศาลามีคนจากต่างจังหวัดมาเช่าพักนอนอยู่ แล้วให้ย้ายศพไปไว้ที่อื่น หากนำศพเข้ามาจะแจ้งตำรวจจับ จนทำให้มีคนเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก กระทั่งทางกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตได้ย้ายศพไปยังวัดในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมากและจะล่ารายชื่อเพื่อเข้ามาตรวจสอบ
พระมหาวิชัย วราวาส ถามวโร เจ้าอาวาส เปิดเผยในเวลาต่อมาว่ากรณีดังกล่าวไม่เป็นเรื่องจริงตามที่ถูกกล่าวหา แต่คืนดังกล่าวมีกลุ่มพ่อค้าเร่มาจากจังหวัดมหาสารคามมาขอพักอาศัยที่วัด โดยช่วยค่าน้ำค่าไฟหัวละ 100 บาท จึงแค่แจ้งไปว่าให้ทำตามลำดับคิวเท่านั้น
ล่าสุดวันนี้ พระครูพิพิธกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองปรือ ในฐานะเจ้าคณะอ.บางละมุง เรียกประชุมคณะสงฆ์หมู่ใหญ่ เพื่อประชุมเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นและรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังรับฟังเรื่องราวก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนและอธิบายถึงวิธีการปฏิบัติตัวตามกิจขอสงฆ์ที่ถูกต้อง ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับพิธีทางศาสนา ช่วยเหลือผู้ยากไร้ และให้ความสำคัญกับคนท้องถิ่นเป็นหลัก พร้อมประสานทางโทรศัพท์ไปยังญาติผู้เสียชีวิตซึ่งได้รับแจ้งว่ารู้สึกเสียใจและไม่ได้ติดใจในตัวเจ้าอาวาส ส่วนกรณีที่จะมีการประท้วงขับไล่เป็นเรื่องของชาวบ้านไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวแต่อย่างใด
พระครูพิพิจกิจจารักษ์ เจ้าคณะ อ.บางละมุง ระบุว่ากรณีนี้ปัญหาเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องของเจ้าอาวาส ที่ใช้คำพูดและ การบริหารจัดการที่บกพร่อง ด้วยสงฆ์เป็นเพศบรรพชิตที่ต้องให้ความสำคัญในการเผยแผ่ศาสนาและกิจกรรมทางศาสนพิธี ไม่ว่าผู้ที่จะมาประกอบการจะมีเงินทอง ร่ำรวย หรือยากจน โดยเฉพาะเรื่องของพิธีศพที่ทางวัดต้องดูแลอย่างเต็มที่ตามหลักการ
อย่างไรก็ตามจากการประสานไปทางญาติก็ไม่ได้ติดใจเอาความและทางเจ้าอาวาสก็รับว่าได้กระทำการไปโดยไม่ยั้งคิดและผิดจริง จึงได้ทำบันทึกความผิดให้เจ้าอาวาสลงนามตามบทลงโทษของมติคณะสงฆ์ด้วยการทำทัณฑ์บนเป็นเวลา 3 เดือนนับจากนี้ ซึ่งหากพบว่ามีการร้องเรียนหรือการกระทำแบบนี้อีกก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ขณะที่กรณีของกลุ่มชาวบ้านที่จะเดินทางมาร้องเรียนนั้นถือว่าเป็นคนละกรณี ซึ่งหากชาวบ้านเห็นว่าเจ้าอาวาสองค์นี้ไม่เหมาะสมและมีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องก็ให้ทำหนังสือเสนอมายังเจ้าคณะอำเภอเพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการต่อไป
ขณะที่ พระมหาวิชัยวราวาส ถามวโร เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุ ชี้แจงว่ากรณีที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดจริง ก็ขอน้อมรับตามบทลงโทษของคณะสงฆ์ที่ให้ไว้ ส่วนเรื่องของชาวบ้านที่ไม่พอใจและจะยกขบวนมาประท้วงขับไล่นั้นก็คงต้องรอให้ถึงเวลาและดำเนินการตามขั้นตอนของคณะสงฆ์.-สำนักข่าวไทย