กรมขนส่งมั่นใจ! “ใบขับขี่อัจฉริยะ” พร้อมใช้งานต้นปี 62

สำนักข่าวไทย 18 ธ.ค. – กรมการขนส่งทางบกพร้อมนำระบบ “ใบขับขี่อัจฉริยะ” ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน คาดเริ่มได้ต้นปี 62 นี้





ไปคุยเรื่องที่ผู้ขับรถทุกคนต้องรู้ เพราะว่าตามกฎหมาย การขับรถต้องมีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน แน่นอนการออกใบอนุญาต ก็ถือเป็นบริการภาครัฐที่ให้บริการแก่ประชาชนใช้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขับขี่ รวมถึงการควบคุมตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของผู้ขับรถด้วย


เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ถือเป็นงานอีกส่วนหนึ่ง ที่สามารถนำเทคโนโลยี ระบบการสื่อสารมาใช้ปรับปรุง เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบก ได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ในรูปแบบระบบใบขับขี่อัจฉริยะ มุ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบใบขับขี่ดิจิทัล เสมือนจริงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สามารถตรวจสอบข้อมูลของบัตร ผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ติดตั้งบนสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือ  โดยคุณพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตั้งเป้าหมายที่จะนำมาใช้ให้ได้ ตั้งแต่มกราคมปี 2562

ที่นี้มาดูรายละเอียดกันบ้าง โดยการเชื่อมข้อมูลใบขับขี่ลงไปในแอพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อใช้แสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ เมื่อถูกเรียกตรวจสอบเจ้าหน้าที่สามารถตรวจความถูกต้องของบัตรได้โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดจากแอพพลิเคชั่นในมือถือได้ทันที รวมทั้งมีระบบแจ้งเตือนระยะเวลาหมดอายุของใบขับขี่ล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมต่อใบอนุญาต ตามกำหนดเวลา

โดยกรมการขนส่งทาบก เชื่อว่า ระบบแอพพลิเคชั่น QR ใบขับขี่นี้ จะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ใช้ใบขับขี่ทุกประเภท หากหลงลืมใบขับขี่หรือไม่ได้พกติดกระเป๋า ก็สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือโชว์ภาพใบขับขี่ได้ แต่ว่าการใช้งานในระยะแรก ในต้นปีหน้านั้น ก็จะใช้ควบคู่ไปกับใบขับขี่รูปแบบเดิม รวมทั้งตรวจสอบใบสั่งที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงโลเคชั่นของผู้ถือใบขับขี่ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุหรือต้องการขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรุ๊ปเลือด ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวและสิทธิรักษาพยาบาล ใบขับขี่ดังกล่าวจะครอบคลุมทุกประเภททั้งส่วนบุคคล ใบขับขี่สาธารณะและประเภทพิเศษ

ส่วนขั้นตอนการใช้นั้น ประชาชนที่ถือใบขับขี่ธรรมดาที่ยังไม่มีคิวอาร์โค้ดด้านหลัง สามารถเข้าไปสมัครลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ส่วนประชาชนที่ถือใบขับขี่รุ่นที่มีคิวอาร์โค้ด สามารถใช้มือถือสแกนคิวอาร์โค้ดหลังบัตรผ่านแอพพลิเคชัน “DLT QR Licence” ซึ่งรองรับการทำงานได้ทั้งมือถือ ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android ที่ Play Store และ iOS ที่ App เพื่อเข้าระบบได้เล

กรมการขนส่งทางบก เน้นย้ำเรื่องของความสำคัญ ที่ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตโดยถูกต้อง เพราะมีสถิติตัวเลข หลายอย่างบ่งชี้ เช่น  ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พบว่า ผู้ขับที่ไม่มีใบอนุญาต มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต ร้อยละ 34 มากกว่าผู้ขับที่มีใบอนุญาต 2 เท่า รวมทั้งในกฎหมายขนส่งฉบับใหม่ ที่มีการรวม พ.ร.บ.รถยนต์ และขนส่งด้วยกัน แน่นอนจะมีการกำหนดบทลงโทษที่สูงขึ้น สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตไว้ด้วย ต้องไปติดตามรายละเอียดกัน

ตำรวจกังวลใช้ใบขับขี่ดิจิทัล



ตำรวจกังวลการใช้ใบขับขี่ดิจิทัล ทำให้ยึดใบขับขี่ตาม ก.ม.จราจรไม่ได้ ทั้งไม่ชัวร์ว่าจะพิสูจน์ตัวบุคคลได้จริงหรือไม่จริง ด้านอธิบดีขนส่งฯ ยันปลอดภัยและเชื่อถือได้แน่

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร ให้สัมภาษณ์กรณีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้พัฒนาระบบใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) แบบอัจฉริยะ หรือ “ใบขับขี่ดิจิทัล” โดยจะเปิดใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น “DLTSmart Licence” บนโทรศัทพ์มือถือสมาร์ทโฟนกลางเดือน ม.ค. 62

ตำรวจเห็นด้วยกับการใช้ใบขับขี่ดิจิทัลของ ขบ. แต่ขณะเดียวกันตำรวจซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบสถานภาพในการขับรถของผู้ที่ได้รับใบขับขี่ ซึ่งต้องพกใบขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 140 เนื่องจากเมื่อพบประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ตำรวจจะตรวจสอบและเรียกเก็บใบขับขี่ไว้ชั่วคราวพร้อมออกใบสั่ง เพื่อใช้แทนใบขับขี่มีอายุ 7 วัน หลังจากนั้นผู้กระทำผิดต้องมาชำระค่าปรับตามวันเวลาที่ระบุไว้ในใบสั่ง จึงกังวลว่าการใช้ใบขับขี่ดิจิทัล ถ้าประชาชนกระทำผิด อาจจะเรียกเก็บใบขับขี่ไม่ได้

นอกจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องรายละเอียดการตรวจสอบข้อมูลในแอพฯ กับผู้ถือใบขับขี่ ว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ หรือเป็นใบขับขี่ของบุคคลนั้นจริงหรือไม่ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ข้อมูลของบุคคลอื่นได้

ดังนั้น ตำรวจจะเร่งประสานเข้าไปหารือกับ ขบ. เกี่ยวกับรายละเอียดแนวทางปฏิบัติโดยเร็ว ก่อนนำมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับประชาชน ส่วนความคืบหน้าการเชื่อมระบบข้อมูล สตช. กับ ขบ. ในการอายัดทะเบียนและไม่รับชำระภาษีประจำปีกับผู้ที่ไม่ชำระค่าปรับจราจรหรือการเชื่อมใบสั่งนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนต้องให้เชื่อมต่อได้ในเดือน ธ.ค. นี้

ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดี ขบ. กล่าวว่า ข้อกังวลของตำรวจเรื่องเทคโนโลยีที่นำมาใช้พัฒนาแอพฯ สามารถออกแบบเพิ่มข้อมูลในการยึดใบขับขี่ เช่น รายละเอียด วัน และเวลายึดใบขับขี่ สำหรับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือข้อมูลในแอพฯ กับผู้ถือใบขับขี่เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่นั้น ระบบดังกล่าวจะคล้ายการโอนเงินผ่านแอพฯ มือถือของธนาคาร (อีแบงก์กิ้ง) ซึ่ง ขบ. มีการจัดทำข้อมูลอย่างถูกต้อง ปลอดภัยและเชื่อถือได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่มาขอทำใบขับขี่ ส่วนบุคคลที่จะดึงข้อมูลไปใช้ เช่น ตำรวจ ต้องหารือรูปแบบการนำไปใช้อีกครั้ง .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]