กรมขนส่งมั่นใจ! “ใบขับขี่อัจฉริยะ” พร้อมใช้งานต้นปี 62

สำนักข่าวไทย 18 ธ.ค. – กรมการขนส่งทางบกพร้อมนำระบบ “ใบขับขี่อัจฉริยะ” ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน คาดเริ่มได้ต้นปี 62 นี้





ไปคุยเรื่องที่ผู้ขับรถทุกคนต้องรู้ เพราะว่าตามกฎหมาย การขับรถต้องมีใบอนุญาตขับขี่ทุกคน แน่นอนการออกใบอนุญาต ก็ถือเป็นบริการภาครัฐที่ให้บริการแก่ประชาชนใช้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ขับขี่ รวมถึงการควบคุมตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของผู้ขับรถด้วย


เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ถือเป็นงานอีกส่วนหนึ่ง ที่สามารถนำเทคโนโลยี ระบบการสื่อสารมาใช้ปรับปรุง เพื่อให้เกิดความสะดวกมากขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบก ได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ ในรูปแบบระบบใบขับขี่อัจฉริยะ มุ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบใบขับขี่ดิจิทัล เสมือนจริงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สามารถตรวจสอบข้อมูลของบัตร ผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ติดตั้งบนสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพท์มือถือ  โดยคุณพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตั้งเป้าหมายที่จะนำมาใช้ให้ได้ ตั้งแต่มกราคมปี 2562

ที่นี้มาดูรายละเอียดกันบ้าง โดยการเชื่อมข้อมูลใบขับขี่ลงไปในแอพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อใช้แสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ เมื่อถูกเรียกตรวจสอบเจ้าหน้าที่สามารถตรวจความถูกต้องของบัตรได้โดยการสแกนคิวอาร์โค้ดจากแอพพลิเคชั่นในมือถือได้ทันที รวมทั้งมีระบบแจ้งเตือนระยะเวลาหมดอายุของใบขับขี่ล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมต่อใบอนุญาต ตามกำหนดเวลา

โดยกรมการขนส่งทาบก เชื่อว่า ระบบแอพพลิเคชั่น QR ใบขับขี่นี้ จะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ใช้ใบขับขี่ทุกประเภท หากหลงลืมใบขับขี่หรือไม่ได้พกติดกระเป๋า ก็สามารถเปิดแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือโชว์ภาพใบขับขี่ได้ แต่ว่าการใช้งานในระยะแรก ในต้นปีหน้านั้น ก็จะใช้ควบคู่ไปกับใบขับขี่รูปแบบเดิม รวมทั้งตรวจสอบใบสั่งที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงโลเคชั่นของผู้ถือใบขับขี่ เมื่อรถเกิดอุบัติเหตุหรือต้องการขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรุ๊ปเลือด ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวและสิทธิรักษาพยาบาล ใบขับขี่ดังกล่าวจะครอบคลุมทุกประเภททั้งส่วนบุคคล ใบขับขี่สาธารณะและประเภทพิเศษ

ส่วนขั้นตอนการใช้นั้น ประชาชนที่ถือใบขับขี่ธรรมดาที่ยังไม่มีคิวอาร์โค้ดด้านหลัง สามารถเข้าไปสมัครลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ส่วนประชาชนที่ถือใบขับขี่รุ่นที่มีคิวอาร์โค้ด สามารถใช้มือถือสแกนคิวอาร์โค้ดหลังบัตรผ่านแอพพลิเคชัน “DLT QR Licence” ซึ่งรองรับการทำงานได้ทั้งมือถือ ที่เป็นระบบปฏิบัติการ Android ที่ Play Store และ iOS ที่ App เพื่อเข้าระบบได้เล

กรมการขนส่งทางบก เน้นย้ำเรื่องของความสำคัญ ที่ผู้ขับรถต้องมีใบอนุญาตโดยถูกต้อง เพราะมีสถิติตัวเลข หลายอย่างบ่งชี้ เช่น  ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ พบว่า ผู้ขับที่ไม่มีใบอนุญาต มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต ร้อยละ 34 มากกว่าผู้ขับที่มีใบอนุญาต 2 เท่า รวมทั้งในกฎหมายขนส่งฉบับใหม่ ที่มีการรวม พ.ร.บ.รถยนต์ และขนส่งด้วยกัน แน่นอนจะมีการกำหนดบทลงโทษที่สูงขึ้น สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตไว้ด้วย ต้องไปติดตามรายละเอียดกัน

ตำรวจกังวลใช้ใบขับขี่ดิจิทัล



ตำรวจกังวลการใช้ใบขับขี่ดิจิทัล ทำให้ยึดใบขับขี่ตาม ก.ม.จราจรไม่ได้ ทั้งไม่ชัวร์ว่าจะพิสูจน์ตัวบุคคลได้จริงหรือไม่จริง ด้านอธิบดีขนส่งฯ ยันปลอดภัยและเชื่อถือได้แน่

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะคณะทำงานแก้ปัญหาจราจร ให้สัมภาษณ์กรณีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้พัฒนาระบบใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) แบบอัจฉริยะ หรือ “ใบขับขี่ดิจิทัล” โดยจะเปิดใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น “DLTSmart Licence” บนโทรศัทพ์มือถือสมาร์ทโฟนกลางเดือน ม.ค. 62

ตำรวจเห็นด้วยกับการใช้ใบขับขี่ดิจิทัลของ ขบ. แต่ขณะเดียวกันตำรวจซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบสถานภาพในการขับรถของผู้ที่ได้รับใบขับขี่ ซึ่งต้องพกใบขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 140 เนื่องจากเมื่อพบประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ตำรวจจะตรวจสอบและเรียกเก็บใบขับขี่ไว้ชั่วคราวพร้อมออกใบสั่ง เพื่อใช้แทนใบขับขี่มีอายุ 7 วัน หลังจากนั้นผู้กระทำผิดต้องมาชำระค่าปรับตามวันเวลาที่ระบุไว้ในใบสั่ง จึงกังวลว่าการใช้ใบขับขี่ดิจิทัล ถ้าประชาชนกระทำผิด อาจจะเรียกเก็บใบขับขี่ไม่ได้

นอกจากนี้อาจมีปัญหาเรื่องรายละเอียดการตรวจสอบข้อมูลในแอพฯ กับผู้ถือใบขับขี่ ว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ หรือเป็นใบขับขี่ของบุคคลนั้นจริงหรือไม่ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้ข้อมูลของบุคคลอื่นได้

ดังนั้น ตำรวจจะเร่งประสานเข้าไปหารือกับ ขบ. เกี่ยวกับรายละเอียดแนวทางปฏิบัติโดยเร็ว ก่อนนำมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบกับประชาชน ส่วนความคืบหน้าการเชื่อมระบบข้อมูล สตช. กับ ขบ. ในการอายัดทะเบียนและไม่รับชำระภาษีประจำปีกับผู้ที่ไม่ชำระค่าปรับจราจรหรือการเชื่อมใบสั่งนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนต้องให้เชื่อมต่อได้ในเดือน ธ.ค. นี้

ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดี ขบ. กล่าวว่า ข้อกังวลของตำรวจเรื่องเทคโนโลยีที่นำมาใช้พัฒนาแอพฯ สามารถออกแบบเพิ่มข้อมูลในการยึดใบขับขี่ เช่น รายละเอียด วัน และเวลายึดใบขับขี่ สำหรับความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือข้อมูลในแอพฯ กับผู้ถือใบขับขี่เป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่นั้น ระบบดังกล่าวจะคล้ายการโอนเงินผ่านแอพฯ มือถือของธนาคาร (อีแบงก์กิ้ง) ซึ่ง ขบ. มีการจัดทำข้อมูลอย่างถูกต้อง ปลอดภัยและเชื่อถือได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่มาขอทำใบขับขี่ ส่วนบุคคลที่จะดึงข้อมูลไปใช้ เช่น ตำรวจ ต้องหารือรูปแบบการนำไปใช้อีกครั้ง .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย