ห่วง กกต.โดนถล่ม จี้จัดเลือกตั้งให้ยุติธรรม

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.- “สุขุม”  ชี้เลือกตั้งไม่มีอนาคต เพราะรู้ตัวนายกฯล่วงหน้า ขอให้ประชาชนเลือกระหว่างอยู่กับปัจจุบันหรือเลือกอนาคต “สดศรี” ห่วง กกต.เป็นตำบลกระสุนตก โดนถล่ม หากไม่กล้า ความเสื่อมจะตามมา จี้จัดเลือกตั้งให้ยุติธรรม  รองเลขาฯ กกต.ระบุเป็นอำนาจ กกต.ในการอนุญาตองค์กรระหว่างประเทศมาสังเกตการณ์เลือกตั้ง    


ที่โรงแรมเซ็นทรา ในการเสวนา “การเลือกตั้งคุณภาพกับอนาคตประเทศไทยภายหลังการเลือกตั้ง” นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนตั้งความหวังกับ กกต.ไว้มาก  เพราะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กกต.ทั้ง 7 คน จึงต้องแข็งขัน ไม่ใช่เป็น กกต.แล้ว แต่ คสช.จะเรียกประชุม ถ้า กกต.ยอมให้คนอื่นเข้ามายุ่งใบประกันคุณภาพก็ไม่มีเหลือ  

นายสุขุม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เลือกผู้แทนฯ ส่วนนายกฯ ไม่ต้องห่วงจัดไว้ให้แล้ว ถ้าพลังประชารัฐไม่ชนะ ไม่ได้มาเป็นที่ 1 นายกฯ ก็ยังต้องพึ่งพิงอำนาจอำมาตยาธิปไตย อย่าลืมพรรคที่มีอยู่แล้ว 250 เสียง เขาต้องการอีกแค่ 176 เสียง ซึ่งได้แน่ ผมไม่คิดว่าพลังประชารัฐจะชนะ  แต่เขามีเกิน 176 แน่นอน นายกฯ จึงยังปลอดภัยในแง่บริหาร  โดยไม่ต้องพึ่งพิงนักการเมือง  และทันทีที่รวมพรรค รวมคะแนนได้เป็นนายกฯ ก็จะมีคนยกป้ายให้เพิ่มอีก จากพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคทางหนีไฟ นั่นเป็นเพราะพรรคการเมืองมีอุดมการณ์เพื่อเป็นฝ่ายรัฐบาล  


“ผมยังมองว่า นายกฯ ยังมีโอกาสร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่น้ำครึ่งแก้ว ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย  ถ้าตัดสินใจแบบอยู่กับปัจจุบันก็เลือกผู้แทนฯ  แต่ถ้าคิดว่าการเลือกตั้งชี้อนาคตก็เลือกระหว่างจะให้สืบทอดอำนาจหรือไม่ให้สืบทอดอำนาจ” นายสุขุม กล่าว 

นางสิริพรรณ นกสวน  สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือที่ออกไปในทาง 3 แพร่ง  ๆ แรกเป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย  แพร่งที่ 2 การเลือกตั้งที่นำไปสู่เขาวงกต เป็นหน้ากากประชาธิปไตยของผู้นำอำนาจนิยม และแพร่งที่ 3 การเลือกตั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการเมืองรอบใหม่  ซึ่งจะออกมาในรูปแบบใดขึ้นอยู่กับประชาชนและ กกต.  

นางสิริพรรณ กล่าวว่า กติกาการเลือกตั้งที่ถูกสร้างขึ้นจะต้องมีคุณภาพ  รวมถึงการสร้างเสถียรภาพให้พรรคการเมือง  ไม่ใช่ทำให้พรรคแข็งแรงพรรคเดียว  แต่ต้องทำให้พรรคมีระบบที่เป็นคุณภาพ  ไม่ถูกควบคุมโดยฝ่ายบริหาร  ข้อกังวลคือหากประชาชนเลือกไปแล้ว  เขาก็หวังให้พรรคที่มีเสียงข้างมากจะเป็นรัฐบาล  แต่ชนชั้นนำทางการเมืองอาจต่อรองให้ผลการจัดตั้งรัฐบาลให้ออกมาเป็นอีกอย่าง  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะลดทอนความต้องการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมือง  ไม่เหลือสถาบันทางการเมืองใดเลยที่ประชาชนหวงแหนศรัทธา และอาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองรอบใหม่ 


“ทุกวันนี้รู้สึกสงสาร กกต. ถูกตั้งคำถามตลอดเวลาว่าจะโกงมั้ย  บัตรเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร โครงสร้างการเลือกตั้งที่ออกมา  เป็นระบบจัดสรรผสม  ซึ่งเยอรมันเคยใช้ในปี 1949  หลังสงครามโลก และหยุดใช้ในปี 1953 อาจเป็นเพราะนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ  อาจอยากกลับไปเป็นออเจ้า ระบบนี้ไม่ส่งเสริมการแข่งขันของพรรคการเมือง  ทำให้พรรคอ่อนแอ ตอบโจทย์คนที่ไม่ศรัทธา” นางสิริพรรณ  กล่าว 

นางสิริพรรณ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นเมื่อมองไปที่ตัวผู้เล่นทางการเมือง จะเห็นผู้แสดงกลุ่มหนึ่งอยู่นอกกติกา  โดย คสช.เป็นผู้ออกแบบกติกา  เลือกผู้ร่างกติกา และเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนกติกาได้ระหว่างเกม จึงเป็นผู้เล่นที่ได้เปรียบคนอื่น  รวมทั้งยังมีสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีที่มาจากนอกกติกาเป็นตัวช่วย ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกฯ คนต่อไป  ก็ควรเลิกรายการนายกฯพบประชาชน  เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเกินไป จนถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรม  และไม่ควรให้การเลือกตั้งอยู่ในบริบททางการเมืองที่อยู่ภายใต้ ม. 44 และทหารกับหน่วยความมั่นคง  เชื่อว่าประชาชนคาดหวังรัฐบาลผสมที่มีคุณภาพและเสถียรภาพ  และหวังให้นำนโยบายพรรคการเมืองมาใช้เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ 

นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการ กตต. กล่าวว่าการปฏิวัติของ คมช. มีบทบาทควบคุม กกต.มากกว่า คสช. แม้ที่ผ่านมาจะมี มาตรา 44 แต่ก็เชื่อว่าคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง  เป็นเรื่องที่เราขอร้องเขามากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่แก้ปัญหาลำบาก  ขอให้ กกต.พูดกับนายกฯ ตรง ๆ ว่าขอบคุณที่ช่วยใช้ ม.44   แต่หลังจากนี้กกต.เดินต่อเองได้  ไม่จำเป็นต้องใช้ ม. 44 มาช่วยแล้ว

นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนประเด็นบัตรเลือกตั้งแบบโหล ที่หลุดออกมา เนื่องจาก กกต.จะทำบัตรยากมาก  การพิมพ์บัตร 350 แบบมีโอกาสพลาด  ถ้าพลาด กกต.ทั้ง 7 คน ต้องโดนก่อน ในการเลือกตั้ง กกต.ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องยาก กกต.เป็นองค์กรที่ต้องชี้ขาดว่าอะไรทำได้-ทำไม่ได้  ซึ่งครั้งนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียง กกต.ทั้ง  7 คน แต่กลับได้ยินแต่เสียงเลขาธิการ กตต.  และรองเลขาธิการ กกต.  

“กกต.กลายเป็นตำบลกระสุนตก บางครั้งอาจได้รับคำสั่งอะไรมา แต่ต้องใช้ดุลพินิจว่าคำสั่งใดจะทำให้ติดคุกหรือไม่ ถ้าติดคุกก็อย่าทำ  ความกล้าเป็นเรื่องสำคัญ  เมื่อไม่กล้าความเสื่อมจะตามมา  การทำงานครั้งนี้ กกต.ต้องแสดงฝีมือ อย่าให้เสียเปล่า ต้องชี้ขาดในสิ่งที่ถูกต้อง  การเฉยไม่ทำให้สถานภาพของ กกต.ดีขึ้น อาจถูกมองว่าอ่อนแอ ไม่เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม” นางสดศรี กล่าว 

นางสดศรี ยังกล่าวถึงประเด็นป้ายหาเสียงที่ห้ามขึ้นภาพบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่า เป็นเรื่องที่กกต.หวังดีไม่อยากให้พรรคการเมืองถูกตีความกฎหมาย กรณีนายชวน หลีกภัย ยังเป็นสมาชิกพรรค การติดภาพสามารถทำได้เพราะไม่ใช่การชี้นำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  การนำภาพที่ถ่ายคู่กับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมือง กกต.อาจตีความว่าเป็นการครอบงำพรรคหรือผู้สมัคร  ซึ่งเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคทันที

นางสดศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาการอธิบายของ กกต.ไม่ได้พูดให้ชัดว่าทำไมจึงใช้รูปนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติพัฒนา จะใช้ภาพนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ  ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถือเป็นปูชนียบุคคล  สามารถนำมาใช้ได้ เปรียบเทียบคล้ายกับการนำภาพพระเกจิ เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่มั่น มาติดในป้าย

ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการสังเกตการณ์เลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศ ว่าที่ผ่านมา กกต.อนุญาตให้เข้ามา ไม่มีปัญหาและคิดว่าถ้าเข้ามาก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน  และเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการเสวนาเปิดให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้แสดงความคิดเห็น  นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทย  กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ  เพราะในบางเขตเลือกตั้ง อาจมีผู้สมัครแค่  5-6 คน ขณะที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า มั่นใจว่าประชาชนกาถูกเบอร์ จึงไม่เห็นด้วยกับประเด็นพรรคเดียวเบอร์เดียว ส่วนข้อกังวลนั้นอยากให้กรรมการใช้กติกาอย่างเข้มข้น การเลือกตั้งจะบริสุทธิ์และยุติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้เล่น  แต่เป็น กกต.ที่ต้องใช้งบมหาศาลในการจัดการเลือกตั้ง  อีกทั้งเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ โดยตอนนี้ กกต.มีเขี้ยวเล็บแล้ว  แต่ถ้ามีการเกรงใจกันการเลือกตั้งจะไม่สนุก อยากให้ กกต.เป็นวีรบุรุษ สร้างประชาธิปไตยของประเทศ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย ย้ำกัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กทม. 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” ยกทีมไปมาเลเซีย คุย “ฮุน มาเนต” หยุดยิงเป็นเรื่องแรก และต้องแสดงให้เห็นว่าจริงใจ ยันไม่มีเรื่องแผนที่ 1 : 200,000 พร้อมยึดหลักอธิปไตยและทรัพย์สินของประชาชนเป็นที่ตั้ง และก่อนไปหารือกองทัพแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะประกอบด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่าวันนี้จะพบกันในเวลาประมาณ 15.00 น. จะมีการคุยกับนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเป็นการยกระดับการคุยในระดับผู้นำประเทศในระดับนายกรัฐมนตรี โดยมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นโฮส มีผู้เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์2 ประเทศคือสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน […]

มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์

กทม. 28 ก.ค.-มทภ.2 ลั่น “ผมยังอยู่” หลังกัมพูชาปล่อยเฟกนิวส์ ทหารถือรูปภาพ ข้อความ RIP หวังทำลายขวัญกำลังใจ ยันจะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ดูแลความปลอดภัยประชาชน ในการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังกัมพูชามีการรายงานและเผยแพร่รูปทหารถือภาพของตนเอง พร้อมข้อความ RIP ว่า เป็นข่าวปลอม หวังทำลายขวัญกำลังใจทหารแนวหน้าและคนไทย ยืนยันว่า ปัจจุบันนี้ตนยังต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เจ้าหน้าที่ทหารทุกคนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการปกป้องอธิปไตยของไทยต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง พล.ท.บุญสิน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อมูล โดยการปล่อยข่าวเท็จ สร้างความสับสนในหมู่ของคนไทย ดังนั้น อยากให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้.-313.-สำนักข่าวไทย

จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเร่งอพยพชาวบ้านกลางดึก

แพร่ 28 ก.ค.-จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากในช่วงกลางดึก พื้นที่ ม.9 และ ม.1 ต.ไผ่โทน อ.ร้องกวาง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชน แต่ในระหว่างอพยพ กระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้ชาวบ้านที่กำลังข้ามน้ำถูกพัดออกไปติดอยู่อีกฝั่ง โชคดีชาวบ้านโยนเชือกช่วยเหลือไว้ได้ทัน ขณะน้ำเมื่อคืนไหลแรงมาก ชาวบ้านเก็บของไม่ทัน มีรถยนต์ ของใช้ที่ได้ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับฝนที่ตกลงมาใน จ.แพร่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลห้วยโรง และตำบลไผ่โทน เมื่อเวลา 20.00 น. มีปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด 130 มม. สำหรับแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณ Y20 สถานีวัดระดับน้ำบ้านห้วยสักวัดได้ 7.58 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.00 ม. เมื่อตอนเวลา 22.00 น. หากฝนยังคงตกต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำยมสูง อาจส่งผลให้น้ำท่วมระลอกที่ 2 ได้.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สนามหลวง 28 ก.ค.-“ภูมิธรรม” รักษาราชการแทนนายกฯ และภริยา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องไทยธรรมและผ้าไตรแด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ก่อนจะตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์และสามเณร 174 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 08.00 น. รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]