ห่วง กกต.โดนถล่ม จี้จัดเลือกตั้งให้ยุติธรรม

กรุงเทพฯ 18 ธ.ค.- “สุขุม”  ชี้เลือกตั้งไม่มีอนาคต เพราะรู้ตัวนายกฯล่วงหน้า ขอให้ประชาชนเลือกระหว่างอยู่กับปัจจุบันหรือเลือกอนาคต “สดศรี” ห่วง กกต.เป็นตำบลกระสุนตก โดนถล่ม หากไม่กล้า ความเสื่อมจะตามมา จี้จัดเลือกตั้งให้ยุติธรรม  รองเลขาฯ กกต.ระบุเป็นอำนาจ กกต.ในการอนุญาตองค์กรระหว่างประเทศมาสังเกตการณ์เลือกตั้ง    


ที่โรงแรมเซ็นทรา ในการเสวนา “การเลือกตั้งคุณภาพกับอนาคตประเทศไทยภายหลังการเลือกตั้ง” นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนตั้งความหวังกับ กกต.ไว้มาก  เพราะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กกต.ทั้ง 7 คน จึงต้องแข็งขัน ไม่ใช่เป็น กกต.แล้ว แต่ คสช.จะเรียกประชุม ถ้า กกต.ยอมให้คนอื่นเข้ามายุ่งใบประกันคุณภาพก็ไม่มีเหลือ  

นายสุขุม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ให้เลือกผู้แทนฯ ส่วนนายกฯ ไม่ต้องห่วงจัดไว้ให้แล้ว ถ้าพลังประชารัฐไม่ชนะ ไม่ได้มาเป็นที่ 1 นายกฯ ก็ยังต้องพึ่งพิงอำนาจอำมาตยาธิปไตย อย่าลืมพรรคที่มีอยู่แล้ว 250 เสียง เขาต้องการอีกแค่ 176 เสียง ซึ่งได้แน่ ผมไม่คิดว่าพลังประชารัฐจะชนะ  แต่เขามีเกิน 176 แน่นอน นายกฯ จึงยังปลอดภัยในแง่บริหาร  โดยไม่ต้องพึ่งพิงนักการเมือง  และทันทีที่รวมพรรค รวมคะแนนได้เป็นนายกฯ ก็จะมีคนยกป้ายให้เพิ่มอีก จากพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคทางหนีไฟ นั่นเป็นเพราะพรรคการเมืองมีอุดมการณ์เพื่อเป็นฝ่ายรัฐบาล  


“ผมยังมองว่า นายกฯ ยังมีโอกาสร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแค่น้ำครึ่งแก้ว ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย  ถ้าตัดสินใจแบบอยู่กับปัจจุบันก็เลือกผู้แทนฯ  แต่ถ้าคิดว่าการเลือกตั้งชี้อนาคตก็เลือกระหว่างจะให้สืบทอดอำนาจหรือไม่ให้สืบทอดอำนาจ” นายสุขุม กล่าว 

นางสิริพรรณ นกสวน  สวัสดี หัวหน้าภาควิชาการปกครอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือที่ออกไปในทาง 3 แพร่ง  ๆ แรกเป็นการเลือกตั้งที่มีคุณภาพเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย  แพร่งที่ 2 การเลือกตั้งที่นำไปสู่เขาวงกต เป็นหน้ากากประชาธิปไตยของผู้นำอำนาจนิยม และแพร่งที่ 3 การเลือกตั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตการเมืองรอบใหม่  ซึ่งจะออกมาในรูปแบบใดขึ้นอยู่กับประชาชนและ กกต.  

นางสิริพรรณ กล่าวว่า กติกาการเลือกตั้งที่ถูกสร้างขึ้นจะต้องมีคุณภาพ  รวมถึงการสร้างเสถียรภาพให้พรรคการเมือง  ไม่ใช่ทำให้พรรคแข็งแรงพรรคเดียว  แต่ต้องทำให้พรรคมีระบบที่เป็นคุณภาพ  ไม่ถูกควบคุมโดยฝ่ายบริหาร  ข้อกังวลคือหากประชาชนเลือกไปแล้ว  เขาก็หวังให้พรรคที่มีเสียงข้างมากจะเป็นรัฐบาล  แต่ชนชั้นนำทางการเมืองอาจต่อรองให้ผลการจัดตั้งรัฐบาลให้ออกมาเป็นอีกอย่าง  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจะลดทอนความต้องการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมือง  ไม่เหลือสถาบันทางการเมืองใดเลยที่ประชาชนหวงแหนศรัทธา และอาจนำไปสู่วิกฤตการเมืองรอบใหม่ 


“ทุกวันนี้รู้สึกสงสาร กกต. ถูกตั้งคำถามตลอดเวลาว่าจะโกงมั้ย  บัตรเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร โครงสร้างการเลือกตั้งที่ออกมา  เป็นระบบจัดสรรผสม  ซึ่งเยอรมันเคยใช้ในปี 1949  หลังสงครามโลก และหยุดใช้ในปี 1953 อาจเป็นเพราะนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ  อาจอยากกลับไปเป็นออเจ้า ระบบนี้ไม่ส่งเสริมการแข่งขันของพรรคการเมือง  ทำให้พรรคอ่อนแอ ตอบโจทย์คนที่ไม่ศรัทธา” นางสิริพรรณ  กล่าว 

นางสิริพรรณ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นเมื่อมองไปที่ตัวผู้เล่นทางการเมือง จะเห็นผู้แสดงกลุ่มหนึ่งอยู่นอกกติกา  โดย คสช.เป็นผู้ออกแบบกติกา  เลือกผู้ร่างกติกา และเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนกติกาได้ระหว่างเกม จึงเป็นผู้เล่นที่ได้เปรียบคนอื่น  รวมทั้งยังมีสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีที่มาจากนอกกติกาเป็นตัวช่วย ดังนั้นหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดทนายกฯ คนต่อไป  ก็ควรเลิกรายการนายกฯพบประชาชน  เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเกินไป จนถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรม  และไม่ควรให้การเลือกตั้งอยู่ในบริบททางการเมืองที่อยู่ภายใต้ ม. 44 และทหารกับหน่วยความมั่นคง  เชื่อว่าประชาชนคาดหวังรัฐบาลผสมที่มีคุณภาพและเสถียรภาพ  และหวังให้นำนโยบายพรรคการเมืองมาใช้เพื่อตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ 

นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการ กตต. กล่าวว่าการปฏิวัติของ คมช. มีบทบาทควบคุม กกต.มากกว่า คสช. แม้ที่ผ่านมาจะมี มาตรา 44 แต่ก็เชื่อว่าคำสั่ง คสช. ที่ 16/2561 เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง  เป็นเรื่องที่เราขอร้องเขามากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่แก้ปัญหาลำบาก  ขอให้ กกต.พูดกับนายกฯ ตรง ๆ ว่าขอบคุณที่ช่วยใช้ ม.44   แต่หลังจากนี้กกต.เดินต่อเองได้  ไม่จำเป็นต้องใช้ ม. 44 มาช่วยแล้ว

นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนประเด็นบัตรเลือกตั้งแบบโหล ที่หลุดออกมา เนื่องจาก กกต.จะทำบัตรยากมาก  การพิมพ์บัตร 350 แบบมีโอกาสพลาด  ถ้าพลาด กกต.ทั้ง 7 คน ต้องโดนก่อน ในการเลือกตั้ง กกต.ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องยาก กกต.เป็นองค์กรที่ต้องชี้ขาดว่าอะไรทำได้-ทำไม่ได้  ซึ่งครั้งนี้ไม่ค่อยได้ยินเสียง กกต.ทั้ง  7 คน แต่กลับได้ยินแต่เสียงเลขาธิการ กตต.  และรองเลขาธิการ กกต.  

“กกต.กลายเป็นตำบลกระสุนตก บางครั้งอาจได้รับคำสั่งอะไรมา แต่ต้องใช้ดุลพินิจว่าคำสั่งใดจะทำให้ติดคุกหรือไม่ ถ้าติดคุกก็อย่าทำ  ความกล้าเป็นเรื่องสำคัญ  เมื่อไม่กล้าความเสื่อมจะตามมา  การทำงานครั้งนี้ กกต.ต้องแสดงฝีมือ อย่าให้เสียเปล่า ต้องชี้ขาดในสิ่งที่ถูกต้อง  การเฉยไม่ทำให้สถานภาพของ กกต.ดีขึ้น อาจถูกมองว่าอ่อนแอ ไม่เป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ต้องจัดการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม” นางสดศรี กล่าว 

นางสดศรี ยังกล่าวถึงประเด็นป้ายหาเสียงที่ห้ามขึ้นภาพบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่า เป็นเรื่องที่กกต.หวังดีไม่อยากให้พรรคการเมืองถูกตีความกฎหมาย กรณีนายชวน หลีกภัย ยังเป็นสมาชิกพรรค การติดภาพสามารถทำได้เพราะไม่ใช่การชี้นำ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ  การนำภาพที่ถ่ายคู่กับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมือง กกต.อาจตีความว่าเป็นการครอบงำพรรคหรือผู้สมัคร  ซึ่งเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคทันที

นางสดศรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาการอธิบายของ กกต.ไม่ได้พูดให้ชัดว่าทำไมจึงใช้รูปนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา หรือพรรคชาติพัฒนา จะใช้ภาพนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ  ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วถือเป็นปูชนียบุคคล  สามารถนำมาใช้ได้ เปรียบเทียบคล้ายกับการนำภาพพระเกจิ เช่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่มั่น มาติดในป้าย

ด้านนายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการสังเกตการณ์เลือกตั้งขององค์กรระหว่างประเทศ ว่าที่ผ่านมา กกต.อนุญาตให้เข้ามา ไม่มีปัญหาและคิดว่าถ้าเข้ามาก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน  และเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการเสวนาเปิดให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้แสดงความคิดเห็น  นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทย  กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้พรรคการเมืองใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ  เพราะในบางเขตเลือกตั้ง อาจมีผู้สมัครแค่  5-6 คน ขณะที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า มั่นใจว่าประชาชนกาถูกเบอร์ จึงไม่เห็นด้วยกับประเด็นพรรคเดียวเบอร์เดียว ส่วนข้อกังวลนั้นอยากให้กรรมการใช้กติกาอย่างเข้มข้น การเลือกตั้งจะบริสุทธิ์และยุติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้เล่น  แต่เป็น กกต.ที่ต้องใช้งบมหาศาลในการจัดการเลือกตั้ง  อีกทั้งเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ โดยตอนนี้ กกต.มีเขี้ยวเล็บแล้ว  แต่ถ้ามีการเกรงใจกันการเลือกตั้งจะไม่สนุก อยากให้ กกต.เป็นวีรบุรุษ สร้างประชาธิปไตยของประเทศ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย