ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 16ธ.ค.-พรรคอนาคตใหม่ เปิดนโยบาย 12 วาระเปลี่ยนอนาคต ปักธง กองหน้าประชาธิปไตย “ธนาธร” ระบุ หากได้เป็นรัฐบาล จะยกเลิกการผูกขาดสัมปทานรัฐ หยุดทุนใหญ่กินรวบประเทศ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรคร่วม เปิดตัวนโยบายหาเสียงในงาน “เปิดวิสัยทัศน์ เปลี่ยนอนาคต” ประกาศ 12 วาระนโยบายเปลี่ยนอนาคต ประกอบด้วย 3 นโยบายฐานราก คือ ยุติระบบราชการรวมศูนย์ ปฏิวัติการศึกษา และ ไทยเท่าเทียม
8 นโยบายเสาหลัก คือ ทลายเศรษฐกิจผูกขาด ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน เกษตรก้าวหน้า เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน เปิดข้อมูลรัฐ กดำจัดทุจริต โอบรับความหลากหลาย สิ่งแวดล้อมยนั่งยืน และ ปฏิรูปกองทัพ และ 1 ปักธงประชาธิปไตย มีเป้าหมายเปลี่ยนอนาคต ให้ทุกคนนำไปสู่สังคมที่คนเท่าเทียมกัน ให้คนไทยเท่าทันโลก
นายธนาธร กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ถึง 8 นโยบายเสาหลัก ในหัวข้อทลายเศรษฐกิจผูกขาด ล้างระบบเส้นสาย หยุดทุนใหญ่กินรวบประเทศ ว่า ประเทศไทยมีกลุ่มอภิสิทธิ์ชน ที่กุมอำนาจเศรษฐกิจและสังคมการเมืองไว้ ประกอบด้วย พันธมิตรกลุ่มทุน ข้าราชการระดับสูง นายทหารและพรรคการเมืองบางพรรค คนกลุ่มนี้ต้องการดึงให้ประเทศไม่ให้ไปข้างหน้า รักษาโครงสร้างเศรษฐกิจแบบนี้ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์นานเท่านาน
“หากพรรคอนาคตใหม่มีอำนาจในการบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะทำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือ ยกเลิกการผูกขาดสัปมทานของรัฐ เพิ่มผู้ประกอบการรายใหม่ให้เข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาด เช่น สัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบิน ที่จะหมดสัญญาในเดือนกันยายน 2563” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวว่า นอกจากนั้น จะต้องแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาด และกีดกันการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึง การเดินหน้าเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารเพิ่มขึ้น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อสอดรับกับเรื่องกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และสุดท้ายคือ บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการใหญ่ของรัฐ เพื่อให้มีการจัดสรรสัมปทานที่โปร่งใส และเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานแถลงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ มีการตั้งบูธจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของพรรค รวมถึง การล่ารายชื่อ 10,000 รายชื่อ เพื่อยกเลิกคำสั่ง คสช. 35 ฉบับ ที่พรรคอนาคตใหม่เห็นว่า เป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนของประชาน ที่จัดทำแคมเปญโดยโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อ กฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ ด้วย ..- สำนักข่าวไทย