คันนายาว 15 ธ.ค.- ตำรวจคันนายาวตั้งโต๊ะแถลงโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์คดี “ไอ้คล้าว 2018” ยันทำถูกต้องทุกขั้นตอนในหลักฐานที่มีอยู่ เผยความผิดปกติเรื่องการเปิดบัญชีรับเงินบริจาค จนเกิดดราม่ากรณี “เจ้าทองคำ” ควายยิ้ม
จากกรณีดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ฉายา “พี่คล้าว 2018” ได้โพสต์ภาพถ่ายเซลฟี่กับเจ้าทองคำ “ควายยิ้ม” ดูมีความสุขอยู่กลางทุ่งนา แต่กลับถูกนายบุญเลิศ กาฬภักดี อายุ 64 ปี นายก อบต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท แจ้งความจับ จน “พี่คล้าว 2018” ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายสุรัตน์ พร้อมด้วยทนายความได้เดินทางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน ขณะที่ตำรวจได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมเปิดคลิปที่เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาชี้แจงให้สื่อมวลชนเข้าใจ หลังอ้างว่ามีนักกฎหมายเป็นจำนวนมากออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ โดยในการแถลงข่าว นายสุรัตน์ ได้ขอเข้าไปนั่งร่วมรับฟังด้วย ซึ่งสิ่งที่ตำรวจแถลง พร้อมโชว์คลิปหลักฐานมีใจความดังนี้ เรื่องนี้มีความผิดปกติตรงที่ว่า นายสุรัตน์ ขอรับบริจาคเงิน แต่ไม่ยอมบอกว่าใครคือเจ้าของควายตัวจริง ทำให้คนที่บริจาคเข้าใจผิดว่าเป็นการไถ่ชีวิต ควายตัวนี้กำลังจะถูกนำไปฆ่า ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น
คดีนี้ตำรวจมีอำนาจอยู่ 2 อย่างคือการสืบสวนกับสอบสวน คดีนี้พนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ เมื่อตรวจเช็กข้อมูลทะเบียนประวัติของนายสุรัตน์ พบเคยมีความผิดเรื่องเล่นการพนันน้ำเต้าปูปลา เมื่อประมาณปี 58 ได้รับโทษปรับจบไปแล้ว จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และดูข้อมูลในโลกโซเชียลมาประกอบกับการสอบถามข้อมูลจาก นายก อบต.สุขเดือนห้า พบว่าได้มีการฝากควายให้ นายสุรัตน์ ไปเลี้ยงไว้ 3 ตัว ต่อมากระแสควายยิ้มเริ่มโด่งดัง เจ้าของควายตัวจริง จึงคิดจะไปเอาควายเจ้าทองคำคืน จนเกิดดราม่าซื้อขายควายกัน นายสุรัตน์ร่ำไห้ขอเปิดรับเงินบริจาค จนได้ยอดเงินในบัญชีเป็นแสน และได้ไปถอนเงินออกไป แต่ไม่ได้ปิดบัญชี จนตำรวจต้องเข้าไปอายัดบัญชี ก่อนจะมีการส่งมอบเงินกันผ่านตัวแทน.-สำนักข่าวไทย