สปป.ลาว 14 ธ.ค. – กรมเชื้อเพลิงฯ แจงราคาประมูลแหล่งก๊าซ บงกช
– เอราวัณเป็นราคาขั้นต้น สูตรยังผันแปรตามราคาน้ำมันดิบดูไบและเงินเฟ้อ
นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า
กรณีที่มีผู้เข้าใจว่าการแข่งขันประมูลแหล่งปิโตรเลียม”เอราวัณและบงกช“
ที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.
ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลทั้ง 2
แหล่งด้วยการเสนอราคาก๊าซฯในอัตราต่ำอยู่ที่ 116
บาทต่อล้านบีทียู ลดลงจากราคาขายในแหล่งบงกชปัจจุบันอยู่ที่ 214 บาทต่อล้านบีทียู ว่าถือเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
เนื่องจากข้อเท็จจริง คือ การเสนอราคาก๊าซดังกล่าวเป็นการเสนอราคาประมูลขั้นต้น (X)
แต่ในสูตรราคาซื้อขายก๊าซที่แท้จริงยังจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ
เช่น การผันแปร ตามราคาน้ำมันดูไบ เงินเฟ้อ เป็นต้น ดังนั้น ราคาซื้อขายก๊าซจะเป็น
ราคาก๊าซขั้นต้นที่ได้จากการประมูล เมื่อนำมาคำนวณรวมกับราคาอื่น ๆด้วย
จึงไม่ใช่แค่ 116 บาทต่อล้านบีทียู แต่จะเป็นเท่าไหร่
ขึ้นอยู่กับค่าการผันแปรแต่ละปี ประกอบด้วย
นางเปรมฤทัย กล่าวว่า ปตท.สผ.เสนอราคาประมูลต่ำเกินไป ขณะที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงขึ้นนั้น
ข้อเท็จจริงคือ การลงทุนในทั้ง 2 แหล่งไม่ได้เป็นการเริ่มลงทุนใหม่
แต่ที่ผ่านมาได้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว
เหลือเพียงการลงทุนขุดเจาะสำรวจเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ปริมาณปิโตรเลียมตามสัญญา
จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ได้สูงมากนัก
ส่วนการประมูลครั้งนี้ ที่มีการประเมินว่า
ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับภาครัฐรวมเป็นมูลค่า 650,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปี อาจจะน้อยเกินไปนั้น อัตราดังกล่าวถือว่าเหมาะสมแล้ว
พราะการประมูลรอบนี้เป็นไปตามระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ซึ่งต่างไปจากเดิมที่เป็นระบบสัมปทาน
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงฯ ระบุว่าเชื่อมั่นว่าบริษัทเชฟรอนประเทศสำรวจและผลิต
จะยังคงรักษากำลังผลิตตามสัญญาซื้อขายก๊าซกับ ปตท.ไว้
เพราะตามสัญญากับภาครัฐต่อสัญญาสัมปทานไป 10 ปี
จะต้องยืนแผนผลิตและผลตอบแทนพิเศษต่อรัฐ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยจ่ายเป็นงวดทุกไตรมาส ตั้งแต่ปี 2555-2565 ดังนั้น
ทางเชฟรอนฯ จะต้องรักษากำลังผลิตไว้ตามสัญญาแน่นอน นอกจากนี้ หลักเกณฑ์ประมูลครั้งนี้
ถือว่าเป็นตามหลักสากล ก็เชื่อว่าเชฟรอนจะเข้าใจถึงการประมูลครั้งนี้
นางเปรมฤทัย กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้กรมเชื้อเพลิงฯ จะส่งหนังสือไปถึงเชฟรอน
เพื่อให้รับทราบผลการประมูลครั้งนี้
พร้อมกับเจรจาร่วมกันในการเลือกแท่นผลิตในแหล่งเอราวัณ
เพราะตามกฎหมายหลังจากสัญญาสัมปทานสิ้นสุดลง
ผู้รับสัมปทานจะต้องทำการรื้อถอนแท่นผลิตเพื่อส่งคืนกับมาเป็นทรัพย์สินของรัฐ
ซึ่งจะต้องตกลงร่วมกันว่าแท่นไหนจะป็นของรัฐ
และแท่นไหนจะต้องรื้อถอนออกไปตามหลักเกณฑ์สากลที่กำหนดไว้
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.)
ได้ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกการประมูลแหล่งเอราวัณและบงกช เนื่องจากเป็นล็อกสเปกว่า
ยังไม่เห็นหนังสือเรียกร้อง แต่พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย
โดยส่วนตัวมองว่าผลการประมูลครั้งนี้เป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไปที่จะได้ใช้ไฟฟ้าและก๊าซเอ็นจีวีในราคาที่ถูกลง
ทำให้ภาคอุตสาหกรรมมีต้นทุนผลิตที่ต่ำลง ส่วนประเด็นราคาก๊าซที่ผลิตได้เสนอต่ำกว่าราคาปัจจุบันมาก
และผลตอบแทนรัฐสูงขึ้น ไม่น่าเป็นกังวล เพราะเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการที่ชนะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการลงทุนและฐานธุรกิจที่เข้มแข็ง
หรือมีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่ได้กำหนดไว้.- สำนักข่าวไทย