อดีตเจ้าของโรงงานเปลี่ยนที่นาเลี้ยงปลา-เลี้ยงเป็ด สร้างรายได้-ปลดหนี้

ลพบุรี 14 ธ.ค.-นายสนั่น บุญมาก วัย 56 ปี อดีตเจ้าของโรงงาน ผันตัวมาเป็นเกษตรกร เลี้ยงปลาและเป็ดไข่ สร้างรายได้ประมาณ 15,000-16,000 บาทต่อวัน สามารถปลดหนี้ได้จนหมด


นายสนั่น บุญมาก อายุ 56 ปี เจ้าของ “ฟาร์มแบงค์” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เลี้ยงเป็ดบนบ่อปลานิล ปลาสวาย เล้าเป็ดสร้างด้วยโครงไม้ที่แข็งแรง ยกพื้นโรงเลี้ยงสูงกว่าพื้นน้ำประมาณ 2 เมตร ปูโครงล่างโรงเลี้ยงด้วยไม้ไผ่สาน ใช้ตาข่ายพลาสติกมีรูปูทับอีกชั้น เพื่อให้เป็ดเดินได้สะดวก และให้ขี้เป็ดไม่ตกค้างบนพื้นโรงเลี้ยง ลงสู่บ่อปลาด้านล่างได้ทันที

ด้านหลังโรงเลี้ยงมีช่องทาง 2 ช่อง เพื่อเป็นทางเดินให้เป็ดลงเล่นน้ำคลายเครียด และทำความสะอาดขน ตรงกลางมีการกั้นรั้วสูงประมาณ 50 ซม. ยาวประมาณ 40 เมตร นำกระบะและฟางข้าวมาปูไว้ให้เป็ดได้วางไข่ โรงเลี้ยงของฟาร์มแบงค์ มีการดูแลรักษาความสะอาดอย่างดี โดยมีการใช้น้ำฉีดล้างทำความสะอาดทุกสัปดาห์


สำหรับเป็ดที่นำมาเลี้ยงซื้อมาจากเป็ดไล่ทุ่งในพื้นที่ต่างจังหวัด เป็นพันธุ์กากีแคมป์เบลล์ สีดำสลับน้ำตาล อายุประมาณ 5 เดือน ร่างกายแข็งแรง พร้อมให้ไข่ โดยถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีน และให้วิตามินเป็ดทุกตัว เพื่อความสมบูรณ์ พร้อมทั้งนำอาหารเม็ดสำเร็จรูปเทใส่กะละมังรอบโรงเลี้ยงให้กินอย่างเต็มที่ และมีน้ำที่สะอาดผสมกับวิตามินให้เป็ดทุกตัวได้กิน ไม่กี่วันเมื่อเป็ดคุ้นเคยกับเล้า และได้กินอย่างเต็มที่ เป็ดเริ่มทยอยออกไข่ ช่วงแรกสามารถเก็บได้ประมาณ 2,500 ฟอง ขณะนี้เป็ดแทบทุกตัวจะออกไข่ให้ได้เก็บแทบทุกตัว ประมาณ 4,000-4,500 ฟองต่อวัน มีรายได้ต่อวันจากการขายไข่ประมาณ 15,000-16,000 บาท

นายสนั่น เล่าว่า เคยล้มเหลวเป็นหนี้จำนวนมาก จากปัญหาโรงงานผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ ที่ต้องปิดตัวลงจากภาวะค่าเงินบาทลอยตัว ค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาท ไทยเปิดเป็นการค้าเสรี และน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 โรงงานถูกน้ำท่วมหนัก ต้องตัดสินใจปิดกิจการ ต้องประกาศขายโรงานเพื่อใช้หนี้บางส่วน แต่ยังไม่สามารถปลดหนี้ที่มีมากถึง 100 ล้านบาท ตัดสินใจกลับบ้านเกิดของภรรยา ที่มีที่ดินว่างเปล่าอยู่ประมาณ 27 ไร่ ขุดบ่อเลี้ยงปลาขาย แต่เห็นว่าการเลี้ยงปลานั้นระยะเวลานาน จึงรวบรวมเงินที่เหลืออยู่ประมาณ 800,000 บาท สร้างโรงเรือนเลี้ยงเป็ดไข่บนบ่อเลี้ยงปลา 4-5 เดือน เป็ดก็ออกไข่ เริ่มมีทุนต่อเนื่อง ขยายการเลี้ยงเป็ดจาก 1 โรง เป็น 4 โรง และเตรียมตัวสร้างผลิตภัณฑ์จากไข่ของฟาร์มตนเอง ระยะเวลากว่า 5 ปี ที่ตนเองและครอบครัวเลี้ยงเป็ดไข่ เลี้ยงปลา สามารถปลดภาระหนี้สินได้จนหมด

ปัจจุบันครอบครัว ลูกหลาน มีอาชีพที่มั่นคง รายได้ต่อวันหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-6,000 บาท ปลานิล ปลาสวาย ที่เลี้ยงไว้จะครบ 11 เดือน อีก 2 บ่อ ก็จะเริ่มทยอยจับได้แล้ว จะมีรายได้ฟรีๆ จากปลาอีกบ่อละประมาณ 200,000 บาท ซึ่งจะขยายการเลี้ยงเป็ดและเลี้ยงปลาออกไปอีก 2 โรง ให้ได้เป็ดครบ 10,000 ตัว ไข่วันละ 10,000 ฟอง รวมถึงทำผลิตภัณฑ์จากไข่ในฟาร์มของตนเอง เช่น ไข่เค็ม ไข่เยี่ยวม้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]

ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”

กทม. 13 พ.ค.-ลา “บิ๊กป้อม” อีก 2 “อุตตม-สนธิรัตน์”​ ไขก๊อก สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ แจ้งว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และความกังวลถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แล้ว และพล.อ.ประวิตรได้อวยพรขอให้ทั้ง2คนโชคดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พลังประชารัฐ คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี2562 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งนี้ ตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ใน พรรคพลังประชารัฐ คือรองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค.-319.-สำนักข่าวไทย

นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน

ปทุมธานี 13 พ.ค. – นายกเบี้ยวแจงปม ชมคนธัญบุรีกินหญ้าหวาน ทำชนะเลือกตั้ง ชี้หญ้าหวานมีประโยชน์ ให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ได้หมายถึงหญ้าอีกแบบที่คนไปตีความกัน จากกรณีนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ควงภรรยา และลูกพีช หรือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชาย นั่งแถลงข่าวประกาศชัยชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี และนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวตำบลธัญบุรี ในเขตเทศบาลตำบลธัญบุรี ที่ให้ความไว้วางใจตนและครอบครัว มาเป็นตัวแทนรับใช้พี่น้องชาวธัญบุรี พร้อมมีช่วงหนึ่งที่ระบุว่า ชาวธัญบุรีกินหญ้าหวาน ถ้ากินหญ้าขม ผมคงไม่ได้รับชัยชนะ พ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีทานหญ้าหวาน และจะทานตลอดไป หลังจากที่นายกเบี้ยวพูดจบ ก็ได้รับเสียงเฮจากกองเชียร์ ที่แห่แหนไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ขณะที่ชาวโซเชียลบางส่วนกลับเห็นต่างว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะตีความไปได้หลายความหมาย ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปหานายกเบี้ยวถึงเรื่องนี้ นายกเบี้ยวบอกเพียงสั้นๆ ว่า คนตีความกันไปใหญ่โต แต่เจตนาของตน คือ หญ้าหวานเป็นของมีประโยชน์ และคนธัญบุรี ก็ชอบกินของที่มีประโยชน์ ด้านกัน จอมพลัง คู่กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นมือที่ 3 เข้าแทรกเรื่องที่นายสมิทธิพัฒน์ จะเข้าไปเยียวยาลุงกับป้า ที่ถูกลูกพีชขับรถบีเอ็มป้ายแดงเบียด […]

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]