กทม.12 ธ.ค.- ผบช.น.เผยสาเหตุตำรวจยิงนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสเป็นเรื่องส่วนตัว เร่งทำความเข้าใจกับสถานทูต
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าสอบปากคำ ด.ต.กันตพงษ์ ฮวดศรี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ลุมพินี หลังก่อเหตุยิง Mr.Malik djamel อายุ 41 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ที่อาคารเทรนดี้ ซอยสุขุมวิท 13 เมื่อช่วงเช้าวันนี้
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ เปิดเผยหลังสอบปากคำว่า กรณีดังกล่าวมาจากการทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวจนเกิดบรรดาลโทสะ ส่วนจะทะเลาะเรื่องใดนั้นอยู่ระหว่างสอบสวน พร้อมยอมรับผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิตรู้จักกันมา กว่า 1 ปี มีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง กรณีกระแสความเหมาะสมว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจสายปราบปราม แต่ไปรับจ้างดูแลสถานบันเทิงบริเวณนั้น ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรายงานแต่การแต่งกายนอกเครื่องแบบเข้าไปในสถานบันเทิงสามารถกระทำได้เพราะอาจเป็นภาระกิจที่ได้รับมอบหมาย
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงภาพลักษณ์ของประเทศเมื่อตำรวจก่อเหตุยิงนักท่องเที่ยวโดยยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจมีผลกระทบกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว แต่ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ล่าสุดผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับทางสถานทูตฝรั่งเศสแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้กำชับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ท่องเที่ยวให้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการทำงาน กรณีมีกระแสข่าวว่ามีพนักงานของร้านรายหนึ่งเป็นคนยื่นอาวุธปืนให้ดาบตำรวจก่อเหตุนั้น อยู่ระหว่างขยายผล รวมถึงการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ต่อข้อถามว่าตำรวจผู้ก่อเหตุเคยมีคดียิงผู้อื่นเสียชีวิต 7-8 ปีก่อน ผบช.น.บอกว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ดำเนินการ
มีรายงานว่า ชนวนเหตุของเรื่องนี้มาจาก ผู้ตายจะเข้าไปทำร้ายแฟนสาวภายในร้านเหล้า แฟนของผู้ตายที่เป็นคนไทยได้เข้ามาขอความช่วยเหลือกับนายตำรวจที่ก่อเหตุซึ่งดูแลพื้นที่บริเวณนั้นอยู่จนทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงและมีการท้าทายกัน ก่อนเกิดการชกต่อยภายในร้าน ซึ่งผู้ต้องหาสู้ไม่ได้จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าจำนวน 5 นัด ผู้ตายยังท้าทายให้ยิงให้โดนก่อนจะวิ่งหลบหนีจากร้านเหล้าในซอยสุขุมวิท 11/1 ไปยังคอนโดเกิดเหตุซอยสุขุมวิท 13 ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันก่อนจะมาก่อเหตุขึ้น.-สำนักข่าวไทย
