กรมสรรพากรดึงร้านขายยาทำบัญชีเล่มเดียว

กรุงเทพ ฯ 7 ก.ย.  – กรมสรรพากรดึงร้านขายยาทำบัญชีเล่มเดียว ย้ำจดทะเบียนนิติบุคคลประหยัดภาษีได้ร้อยละ 40 คาดร้านขายยาเข้าระบบทั้งหมดเกือบ 20,000 ราย


นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร บรรยายพิเศษให้กับผู้ประกอบการร้านขายยา  ” ธุรกิจก้าวหน้า ร้านขายยาสู่สากล” ว่า เมื่อรัฐบาลได้มีนโยบาย National E-Payment เพื่อพัฒนาระบบชำระเงินของประเทศรองรับธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ  ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ผู้ประกอบการ้านทองเข้าระบบบัญชีภาษีอย่างถูกต้องแล้ว จึงได้เชิญผู้ประกอบการร้านขายยามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีเพื่อยื่นแบบเสียภาษี โดยยอมรับว่าธุรกิจร้านขายยา มียอดขายนับแสนล้านบาทต่อปี จากยอดนำเข้ามาผลิตกว่า 2 แสนล้านบาท ปัจจุบันในระบบธุรกิจยา มีผู้ประกอบการนำเข้า 900 ราย ผู้ผลิตยา 1,100 ราย โดยมีร้านขายยา 21,000  ราย แต่ได้จดทะเบียนนิติบุคคลเพียง 2,100 ราย ที่เหลือเป็นบุคคลธรรมดา 19,000 ราย เมื่อผู้ประกอบการร้านขายยาพร้อมเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง จะส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร และทำบัญชีเล่มเดียว ซึ่งเมื่อจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล จะช่วยประหยัดภาษีได้ถึงร้อยละ 40 เนื่องจากรัฐบาลยกเว้นภาษีการโอนอสังหาริมทรัพย์เมื่อจดทะเบียนนิติบุคคล นอกจากนี้ค่าจ้างทำบัญชีเล่มเดียว หักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า และนำค่าใช้จ่ายจริงในหลายด้านหักจากรายได้ตามจริง  เนื่องจากนิติบุคคลเอสเอ็มอีเสียภาษีร้อยละ 15 ขณะที่บุคคลธรรมดาคำนวณภาษีตามกำไรจ่ายสูงสุดถึงร้อยละ 35  เพราะหากเหมาค่าใช้จ่ายร้อยละ 60 จะเป็นต้นทุนมากกว่า เนื่องจากยาเป็นสินค้าเสื่อมสภาพจึงต้องหากำไรในช่วงแรก หากทำบัญชีรับจ่ายได้ตรงจะช่วยลดต้นทุนภาษีได้สูงมาก

 


กรมสรรพากรตั้งเป้าหมายพัฒนานำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (E-Tax Invoice) และใบเสร็จรับเงินให้กับกรมสรรพากร หวังดึงร้านขายยาขนาดใหญ่มีรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท เข้าสู่ระบบดังกล่าวในปี 2560  ผู้ประกอบการขนาดกลางรายได้ 30-500 ล้านบาท เข้าระบบภายในปี 2560  ร้านขายยาขนาดเล็กรายได้ 1.8 -30 ล้านบาท เข้าระบบในปี2562  โดยในปี 2559-2561 กรมสรรพากรจะเน้นให้ความรู้ทางภาษีกับผู้ประกอบการ้านขายยา ไม่มุ่งเน้นจัดเก็บ เมื่อร้านขายยาเข้มแข็ง  หลังจากนั้นจะทะยอยเจรจากับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว  โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร เพื่อปรับมาเป็นนิติบุคคล และขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อให้ความรู้ทางภาษีและการทำบัญชีให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม

 

นายประสงค์ กล่าวว่า ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญจากจีนที่กำลังระบาดในประเทศ โดยบริษัททัวร์รับเฉพาะเงินหยวนเท่านั้น และบางรายจ้างทัวร์ไทยไว้ในรถตามข้อกำหนด เช่น บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัทด้านท่องเที่ยวและบริการขนาดใหญ่ ผู้ต้องหาในข้อหา “ร่วมกันกระทำการเป็นอั้งยี่และร่วมกันทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” จนรัฐบาลต้องดูแลตลาดทัวร์จีนอย่างเข้มงวด การปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ  ในส่วนของกรมสรรพากรต้องพิจารณาการเอกสารจากการถือหุ้นโดยนอมินีคนไทย ดังนั้นจึงสั่งการให้รองอธิบดีสรรพากรลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาทัวร์จีนในสัปดาห์นี้


 

ภญ.ศิริรัตน์ ตันปิชาติ นายกสมาคมเภสัชกรรม (ประเทศไทย) กล่าวว่า การจัดทำข้อมูลของร้านขายยา ต้องส่งข้อมูลซื้อขายยาให้กับคณะกรรมการอาหารและยา ( อย.) โดยมีหมายเลขกำกับ และต้องจัดทำบัญชีส่งกรมสรรพากรอีกด้านหนึ่ง  ยอมรับว่ามีปัญหาในช่วงที่ผ่านมา บางครั้งเภสัชกรออกไปตั้งร้านเล็กๆในต่างจังหวัดเพื่อต้องการช่วยเหลือในเรื่องยารักษา แต่ไม่ได้มองเรื่องธุรกิจมากนัก จึงขาดการเตรียมการเรื่องระบบบริหารธุรกิจ  เมื่อต้องจัดทำบัญชีเล่มเดียวจึงต้องได้รับความร่วมมือจากกรมสรรพากรให้ช่วยเหลือ และหากมีระบบเคลียร์ริ่งของทางการจะทำให้การจัดทำข้อมูลมีระบบมาตรฐานมากขึ้น โดยผู้ประกอบการพร้อมร่วมมือกับกรมสรรพากร นอกจากต้นทุนภาษีต่ำลงแล้วยังช่วยยกระดับมาตรฐานของธุรกิจร้านขายยา.-สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร