อิมแพคเมืองทองธานี 7 ธ.ค.-นายกฯประกาศเจตนารมณ์ต้านทุจริต วันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล กำหนดนโยบายเป็นวาระแห่งชาติ ระบุอดีตเป็นบทเรียนสอนว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย)ที่อิมแพคเมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด Zero Tolernce คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต โดยนายฌูเลียน การ์ซานี ผู้แทนสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก อ่านแถลงการณ์เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล ว่า อยากให้ทุกคนสร้างวัฒนธรรมความชอบด้วยกฎหมาย ช่วยพัฒนาองค์กรที่ตรวจสอบได้และโปร่งใส ทำให้ประชาชนทุกหนแห่งสามารถเข้าถึงโอกาสและมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและมีคุณค่า
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐประจำปี 2561 และรางวัลการแข่งขันกิจกรรมเดิน-วิ่ง Good Guy Run 2018 รวมพลังวิ่งเพื่อส่งเสริมความดี พร้อมกล่าวว่า ต้องร่วมรณรงค์ประกาศเจตนารมย์ต่อต้านการทุจริตอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ สำหรับปัญหาการทุจริตในประเทศไทยถือว่าสั่งสมมาทุกรูปแบบ ทั้งการใช้ช่องว่างของหน้าที่ การซื้อขายตำแหน่ง การจัดซื้อจัดจ้างจนเกิดปัญหาขึ้นในสังคมไทย
“สิ่งสำคัญการลดปัญหาทุจริต คือการสร้างความทั่วถึง การขยายโอกาส เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ป้องกันการรั่วไหลในการใช้งบประมาณ ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมุ่งหวังการปราบทุจริตคอรัปชั่นด้วยการประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ใช้ทุกช่องทางการการป้องกัน และปราบปรามให้นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ทั้งการแก้กฎหมาย แต่บางเรื่องการแก้กฎหมายต้องพิจารณาผลกระทบข้างเคียงด้วย ขณะที่ข้าราชการต้องเข้มแข็ง ทำเพื่อประชาชน ย่อมส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาทุกอย่าง ทั้งการปราบทุจริต ลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง ขณะเดียวกันกระบวนการยุติธรรมต้องไม่ถูกแทรกแซงด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีในยุค 4.0 ย่อมส่งทั้งผลดีและผลเสีย เช่นการใช้เป็นช่องทางกล่าวโจมตีตนเองในโซเซียลทุกวัน และบางกลุ่มไม่รับกติกา ดังนั้น จึงต้องใช้โซเซียลอย่างระมัดระวัง อย่าใช้เพียงความรู้สึกมาตัดสิน ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณในรัฐบาลนี้เป็นไปอย่างเปิดเผย ตามกฎหมาย ที่จะต้องประกาศตามระเบียบ ที่สำคัญรัฐบาลนี้กำชับไปยังท้องถิ่นให้ทำแผนงานตามความต้องการของประชาชน และย่อยโครงการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปราบทุจริต หากพบกระทำผิด ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมายทั้งวินัยและอาญา การปราบปรามการทุจริตจะถูกสร้างเป็นวัฒนธรรมที่จริงจังในอนาคต ทั้งนี้ ดัชนีการทุจริตดีขึ้นเพราะ 4 ปี ที่ผ่านมา มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้น โดยรัฐบาลนี้เข้ามาแก้ปัญหา หากทุกคนมองไม่เห็นว่าผลงาน 4 ปีของรัฐบาลนี้มีสิ่งใดบ้าง ให้ดูที่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง นั่นคือผลงานของรัฐบาล
“รัฐบาลไม่ได้ทำงานเฉพาะตรงนี้ตรงนั้นเพื่อให้คนรักรัฐบาล ช่แน่นอนต้องมีคนรักคนชอบคนไม่ชอบ ดีกว่าที่มีแต่คนรักแต่ไม่ได้แก้ปัญหา แต่ถ้าให้คนไม่ชอบทั้งหมด มันก็แก้อะไรไม่ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความเป็นจริง ด้วยอดีตที่จะเป็นประวัติศาสตร์ที่สอนเรามาทุกวันนี้ว่าอะไรที่เราควรจะทำ อะไรที่เราไม่ควรจะทำ เราไม่ควรจะทุจริตอย่างไรในทุกภาคส่วน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้ติดตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีและแผนแม่บท ประเทศต่าง ๆ ที่เจริญแล้วมียุทธศาสตร์ชาติทุกประเทศ และวันนี้ที่พูดเรื่องต่าง ๆ ในนามรัฐบาล ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ตนไม่ใช่นักการเมืองหรือพรรคการเมือง ดังนั้นพูดได้ทุกเรื่อง
“ปัญหาทีวีดิจิตอลที่ไม่สอดคล้องกับเม็ดเงินโฆษณา ทำให้เกิดปัญหาในขณะนี้ เป็นการลงทุนโดยไม่คำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทีวีดิจิตอลขยายกี่ช่องคนดูก็เท่าเดิม สปอนเซอร์เท่าเก่า กลายเป็นเอาเงินสปอนเซอร์มาหารจำนวนช่องมากขึ้น จะอยู่ได้หรือไม่แบบนั้น หลายคนคิดว่าเขามีแล้ว ก็มีบ้าง แล้วก็เกิดปัญหาเกิดขึ้น นี่เรียกว่าลงทุนโดยไม่คำนึงถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีเหตุมีผล มีความพอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่ใช่พอเห็นเขาดี เห็นเขารวย ก็ลงทุน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้นำประชาชนประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านทุจริต ว่า ขอประกาศเจตนารมณ์จะประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการทุจริต จะยึดมั่นในความยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จะปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยจิตอาสา ทำความดี ด้วยหัวใจ
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตที่ประเทศแม็กซิโก เมื่อ ค.ศ. 2003 ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้วันที่ 9 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล.-สำนักข่าวไทย
