ขายทอดตลาดทรัพย์สินทรานลี่ภูเก็ตยอดทะลุเป้า

ภูเก็ต 7 ก.ย.- ปปง.ขายทอดตลาดเรือ-รถบัสนำเที่ยวคดีทัวร์ศูนย์เหรียญที่ภูเก็ต แค่ 2 วัน ยอดทะลุเป้า 108 ล้านบาท พรุ่งนี้เปิดประมูลอีกวันสุดท้าย รถทัวร์สภาพใหม่พร้อมใช้ 60 คัน


วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต พ.ต.อ.โกวิท ภิรมย์วงศ์ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในฐานะประธานกรรมการขายทอดตลาดทรัพย์สิน รายคดีบริษัททรานลี่ ทราเวิล จำกัด แถลงกรณี ปปง. บูรณาการ การทำงานร่วมกับกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คดีที่เกี่ยวข้องกับบริษัททรานลี่ฯ ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวสร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจประเทศในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จนนำไปสู่การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามมาตรา 3(10) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 นั้น ซึ่งทรัพย์สินบริษัทดังกล่าวมีจำนวนมาก ทาง ปปง. จะต้องจัดหาสถานที่ในการเก็บรักษาทรัพย์สิน และหากเก็บไว้อาจเสื่อมค่า เสื่อมราคา และมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย เสื่อมค่าของทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ จึงดำเนินการจัดขายทอดตลาดทรัพย์สินคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ บริษัททรานลี่ ทราเวิล จำกัด จังหวัดภูเก็ต จำนวน 151 รายการ ในวันที่ 6-8 กันยายน 2559 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเทศบาลนครภูเก็ต

IMG_9727


ทั้งนี้ ทรัพย์สิน 151 รายการ ที่นำมาขายทอดตลาดนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือเรือนำเที่ยว จำนวน 34 ลำ ราคาเริ่มต้นประมูล 31,389,000 บาท รถโดยสารปรับอากาศพิเศษ จำนวน 116 รายการ ราคาเริ่มต้นประมูลประมาณ 161 ล้านบาท

พ.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า การขายทอดตลาดผ่านมา 2 วัน วันแรกมีทรัพย์สินเรือนำเที่ยว ขายได้ทั้งหมดแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 71,534,000 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาเริ่มต้นในการเปิดประมูลเกือบ 200% คือ 31,389,000 บาท ส่วนวันนี้ (7 ก.ย.) เป็นการประมูลทรัพย์สิน ประเภทรถทัวร์นำเที่ยว จำนวน 60 คัน ขายได้ 44 คัน เป็นเงิน 37,300,000 บาท รวม 2 วัน มีมูลค่าทรัพย์สิน 108 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้จะนำเข้าสู่กระทรวงการคลัง ส่วนรถโดยสารของวันนี้ที่ยังประมูลไม่หมดจะนำไปประมูลรวมกับของวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) ที่เป็นทรัพย์สินรถโดยสารหรือรถบัสปรับอากาศ จำนวน 60 คัน ราคาเริ่มต้นประมูล คันละ 1,000,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นราคาประมูลที่สูงกว่าวันนี้ เนื่องจากเป็นรถตลาดมีสภาพใหม่ พร้อมใช้งาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง