กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – กรมชลฯ ยืนยันหน้าแล้งนี้ไม่ขาดน้ำ แนะช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดลดความเสี่ยงในอนาคต
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน (6 ธ.ค.61) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกัน 59,823 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 79 ของความจุเก็บกักรวมกัน โดยมีปริมาณน้ำใช้การได้ 35,894 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 69 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 18,864 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 76 ของความจุอ่างฯ รวมกันมีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 12,168 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับผลการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2561/2562 ซึ่งมีปริมาณน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และแหล่งน้ำอื่น ๆ สนับสนุนการใช้น้ำในเขตชลประทานทั่วประเทศ คิดเป็นปริมาณน้ำใช้การรวมกัน 23,100 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึงปัจจุบันจัดสรรน้ำไปแล้ว 3,852 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 17ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีแผนจัดสรรน้ำรวม 8,000 ล้าน ลบ.ม.(เป็นน้ำจาก 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา 7,300 ล้าน ลบ.ม. และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง 700 ล้าน ลบ.ม.) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ถึง ปัจจุบันจัดสรรน้ำไปแล้ว 1,362 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 17 ของแผนฯ
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งเพียงพอต่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ มีเพียงอ่างเก็บน้ำทับเสลา และอ่างเก็บน้ำกระเสียว ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุฯ สามารถสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ เท่านั้น จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย