ฤดูแล้งปี 68 ไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – “ประเสริฐ” เรียกประชุม กนช. ประเดิมต้นปี 68 ไฟเขียวโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย พร้อมสั่งหน่วยงานป้องกันเชิงรุก ลดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำฤดูแล้งนี้ เลขาธิการ สทนช. ระบุว่าฤดูแล้งปี 2568 รุนแรงน้อยกว่าปีที่แล้วเนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนมีมากกว่าและอยู่ในสภาวะลานีญา ต่างจากปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นเอลนีโญ แต่ต้องเฝ้าระวังการขาดแคลนน้ำเพื่อการผลิตประปาท้องถิ่น


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ติดตามความก้าวหน้าการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้ง และได้มอบหมาย สทนช. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อน 8 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/68 เพื่อเป็นการดำเนินการป้องกันในเชิงรุกก่อนเกิดภัยแล้ง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัด สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วม เพื่อป้องกันความขัดแย้งในพื้นที่และรณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อย โดยบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งและต่อเนื่องจนถึงต้นฤดูฝน ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (ร่าง) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2568 จำนวน 19,970 รายการ โดยให้ สทนช.นำแผนปฏิบัติการภายใต้โครงการดังกล่าว เสนอสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาต่อไป

ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนงานโครงการด้านทรัพยากรน้ำต่างๆ ซึ่งผ่านการจัดลำดับความสำคัญและกลั่นกรองตามระบบ ซึ่งบางโครงการมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาและส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการตามที่หน่วยงานเสนอ ประกอบด้วย


  1. โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง
    เป็นโครงการที่ใช้ในการบริหารจัดการน้ำหลากและน้ำฝนในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง โดยเริ่มตั้งแต่คลองระพีพัฒน์จนถึงสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำต่าง ๆ บริเวณชายทะเลอ่าวไทย สามารถป้องกันและลดปัญหาพื้นที่น้ำท่วมได้เฉลี่ย 298,250 ไร่ บริเวณพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในช่วงฤดูแล้งได้อีก 17 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีด้วย โดยมอบหมายกรมชลประทานดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเร่งรัดจัดทำแผนการจัดการสิ่งรุกล้ำร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และกระทรวงมหาดไทยที่อยู่ภายในเขตคลองให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างทั้งโครงการ รวมถึงดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
  2. แผนหลักการปรับปรุงแม่น้ำสายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย – โคลนแบบยั่งยืนบริเวณด่านการค้าชายแดนแม่สาย พื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของเทศบาลตำบลแม่สาย และพื้นที่ต่อเนื่อง จังหวัดเชียงราย โดยที่ประชุมเห็นชอบให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ศึกษาและบูรณาการแผนงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการจัดทำแผน โดยพิจารณาให้มีความเหมาะสมทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และวิศวกรรม
  3. การขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองพัทยา ระยะที่ 1 จังหวัดชลบุรี

เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถรองรับการระบายน้ำในพื้นที่พัทยาใต้ พัทยากลาง และถนนเทพประสิทธิ์ รวมประมาณ 15 ตารางกิโลเมตร (9,375 ไร่) ได้ประโยชน์ 37,300 ครัวเรือน โดยให้เมืองพัทยาพิจารณาเร่งรัดดำเนินโครงการ และมอบกรมโยธาธิการและผังเมืองทบทวนการศึกษาแผนหลักการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำฯ เมืองพัทยา รวมทั้งศึกษาและออกแบบรายละเอียดในแผนงานระยะเร่งด่วนให้สอดคล้องแผนงานที่ได้ดำเนินการไว้แล้ว

เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบในหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ที่ผ่านการตรวจสอบกลั่นกรองและมีความพร้อม จำนวน 53,969 รายการ ซึ่งรวมถึงโครงการป้องกันน้ำท่วมภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่บรรจุเข้ามาเพิ่มเติมเนื่องจากเป็นโครงการสำคัญที่ต้องดำเนินการเร่งเด่วน โดยให้เทศบาลเมืองปัตตานีเสนอคณะกรรมการลุ่มน้ำพิจารณาให้ความเห็นก่อนขอรับ

การสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้ ได้มอบหมาย สทนช. นำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำดังกล่าว เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในการจัดทำงบประมาณประจำปี ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ต่อไป พร้อมกันนี้ ยังได้รับทราบแผนงานโครงการตาม (ร่าง) แผน 3 ปี ด้านทรัพยากรน้ำและโครงการสำคัญ จำนวน 17,381 รายการ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อุทกภัย และน้ำอุปโภคบริโภค ตามนโยบายรัฐบาล โดยให้หน่วยงาน จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำแผนงานโครงการที่มีความพร้อมไปดำเนินการตามแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ และเสนอขอรับงบประมาณตามความเหมาะสม โดย สทนช. จะติดตามความก้าวหน้าและเร่งขับเคลื่อนการดำเนินโครงการด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี


สำหรับการจัดทำผังน้ำ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ปัจจุบันผังน้ำลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กนช. แล้ว อยู่ในระหว่างการจัดเตรียมเอกสารเสนอประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นอกจากนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบผังน้ำเพิ่มเติมเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีก 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำวัง และลุ่มน้ำน่าน ในส่วนของลุ่มน้ำอื่น ๆ สทนช. จะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนก่อนเสนอ กนช. พิจารณาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในทุกลุ่มน้ำต่อไป

เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นฤดูฝนของภาคใต้ โดยช่วงกลางเดือนมกราคมยังต้องเฝ้าระวังปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้น ขณะที่ตอนบนของประเทศอยู่ในห้วงฤดูแล้ง สถานการณ์น้ำในฤดูแล้งปีนี้ไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากปริมาณน้ำเก็กกักในเขื่อนมีมากกว่า รวมถึงอยู่ในสภาวะลานีญา ต่างจากปีที่แล้วซึ่งเป็นเอลนีโญ แต่ยังต้องเฝ้าระวังการขาดแคลนน้ำสำหรับการผลิตประปาท้องถิ่นในหลายจังหวัดซึ่งได้ประสานหน่วยงานต่างๆ เตรียมพร้อมเพื่อสนับสนุนแล้ว. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]

นายกฯ โพสต์แสดงความยินดี “โอปอล-วิว” สร้างประวัติศาสตร์ไทย

ทำเนียบฯ 1 มิ.ย. – นายกฯ โพสต์แสดงความยินดีกับ “โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎมิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” สร้างประวัติศาสตร์นักแบดมินตันชายเดี่ยวไทยคนเเรกขึ้นมือ 1 โลก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์แสดงความยินดีกับคุณโอปอล สุชาตา มิสเวิลด์ 2025 คนแรกของประเทศไทย และคุณวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทยที่ขึ้นมือ 1 โลกอย่างไม่เป็นทางการค่ะ ทั้ง 2 ข่าวใหญ่ในวันนี้สร้างความภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยความพยายาม ความมุ่งมั่น ของคุณโอปอล และคุณวิว ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้คนไทยทั้งประเทศ ความสำเร็จของทั้ง 2 ท่านในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ เยาวชนและคนไทยค่ะ 🇹🇭❤️#โอปอลสุชาตา #วิวกุลวุฒิ #MissWorldThailand .-314-สำนักข่าวไทย

ซ้อมเสมือนจริง

ผบ.กกล.บูรพา ตรวจความพร้อมรบ เสริมศักยภาพป้องกันชายแดน

สระแก้ว 1 มิ.ย. – ซ้อมเสมือนจริง “ผบ.กกล.บูรพา“ ตรวจความพร้อมรบ เพื่อให้พร้อมรองรับภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายในพื้นที่ชายแดน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 พ.ค.) ที่บ้านหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.พล.ร.2 รอ. ในฐานะ ผบ.กกล.บูรพา เป็นประธานตรวจสภาพความพร้อมรบตามระเบียบปฏิบัติประจำของหน่วยเฉพาะกิจกองพันทหารราบยานเกราะ (ร.12 พัน.2 รอ.) หลังจากที่ได้ดำเนินการ เคลื่อนย้ายกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าสู่ที่รวมพล บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ปฏิบัติภารกิจของหน่วยเมื่อได้รับมอบจากหน่วยเหนือ โดย ผบ.พล.ร.2รอ./ผบ.กกล.บูรพา ได้เน้นย้ำสั่งการในเรื่องการรักษาระเบียบวินัยของกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่ การแสดงภาพลักษณ์ที่ดี แสดงกำลังให้ประชาชนในพื้นที่ เชื่อมั่นในการรักษา ปกป้อง ประเทศชาติ และให้ใส่ใจผู้ใต้บังคับบัญชา ในสายการบังคับบัญชาของตนเอง ในทุกระดับ พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ผสมผสานกับความเป็นผู้นำ และให้เตรียมความพร้อมของกำลังพลที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เมื่อได้รับภารกิจจากหน่วยเหนือ.-313-สำนักข่าวไทย