ตั้งข้อหาหนัก”ขัดคำสั่งคสช.และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย”กับคนจุดพลุงาน”เสาหลักเมืองสุรินทร์”

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค.- ตำรวจตั้งข้อหา”ขัดคำสั่ง คสช.และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตราย”กับคนจุดพลุแล้วเกิดระเบิดในงาน”เสาหลักเมืองสุรินทร์”ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 7ราย ส่วนคนจุดพลุสาหัส


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าเหตุพลุระเบิด ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 19.30 น. สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุพลุระเบิด ในพิธีเปิดงาน “เสาหลักเมืองสุรินทร์” บริเวณริมสระน้ำ วัดจุมพล ตรงข้ามศูนย์เชฟโลแลต ถ.กรุงศรีนอก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ และมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 7 ราย นำส่งโรงพยาบาลสุรินทร์เพื่อทำการรักษา

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหา ได้นำพลุมาจุดในพิธีเปิดงานฯ โดยพลุลูกแรกทำงานปกติ แต่พลุลูกที่ 2 ทำงานผิดพลาดเกิดระเบิดก่อน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยตัวของผู้ต้องหาเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ซึ่งในเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดฐาน “ทำให้เกิดจนน่าจะเกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินผู้อื่น และ ขัดคำสั่ง หน.คสช. ที่ 27/2559 ข้อ 1 ห้ามมิให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน ขึ้นไปสู่อากาศฯ” 


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงเป็นใย ถึงอันตรายจากพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง มาโดยตลอด ได้สั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ตรวจสอบและสืบสวนหาข่าว โรงงานผลิตที่น่าเชื่อว่ามีการลักลอบ รวมทั้งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์รับจ้างผลิตสิ่งของดังกล่าว ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการจับกุมและเสนอเพิกถอนใบอนุญาตอย่างเด็ดขาด เพิ่มความเข้มในการออกตรวจโรงงานทำดอกไม้ไฟหรือพลุระเบิด ที่เคยเกิดเหตุระเบิด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ รวมไปถึง บูรณาการกับ ฝ่ายปกครอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันสถานที่เก็บวัตถุ สารเคมีหรือดินปืนที่ใช้ผลิตดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด อยู่ในสภาพปลอดภัย การป้องกันอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุขณะขนย้ายหรือการนำไปใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และประชาสัมพันธ์สร้างช่องทางการรับรู้การเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และโคมลอยในลักษณะที่จะสร้างความหวาดกลัวและก่อความเดือดร้อนรำคาญ หรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม