กรุงเทพฯ 6 ธ.ค.- ศาลสั่งจำคุก 1 ปีปรับคนละ1แสนบาท พระเอก”ฟิลม์ รัฐภูมิ”กับพวก เปิดบริษัทชำระเงินเถื่อน ศาลปรานีลดโทษกึ่งหนึ่งปรับคนละ 5 หมื่นบาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2ปี พร้อมคุมประพฤติและบริการสังคม
ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด โดย นายศราวุฒิ นนทะภา กรรมการผู้มีอำนาจ นายรัฐภูมิ หรือ ฟิล์ม โตคงทรัพย์ อายุ 33 ปี พระเอกนักแสดงชื่อดัง นายธเนศ จัตวาพรพานิช อายุ 43 ปี และ นายภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ อายุ 38 ปี ในฐานะกรรมการบริษัท ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยคดีนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือนตุลาคม 2559 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อเนื่องกันจำเลยทั้ง 4 คน บังอาจร่วมกันประกอบกิจการให้บริการแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “เพย์ออล” (Payall) และสมัครสมาชิกเพื่อสร้างบัญชีของผู้ใช้บริการ ซึ่งระบบจะตั้งบริษัทสมาชิก รหัสผ่านในการใช้งาน และเติมเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารของจำเลยตามช่องทาง โดยระบบจะบันทึกจำนวนเงินที่เติมตามมูลค่าของผู้ใช้บริการแต่ละราย รวมทั้งนำเงินที่ชำระล่วงหน้าไว้ชำระค่าสินค้า และค่าบริการต่างๆ แทนเงินสดการกระทำของพวกจำเลยมีลักษณะร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการโอนสิทธิการถือครองเงิน และการโอนสิทธิการถอนเงิน หรือหักเงินผ่านบัญชีหรือแอปพลิเคชันของผู้ใช้บริการโดยไม่จำกัด และไม่อยู่ภายใต้ระบบการจัดจำหน่าย ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 และบัญชีท้ายตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุม ดูแลธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกา อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี และวันนี้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัดหมาย
ศาลพิเคราะห์ จำเลยทั้งหมดมีความจริงที่ประกอบกิจการบริษัทฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 2 แสน ส่วนจำเลยที่ 2 ถึง 4 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท แต่จำเลย ที่ 2 ถึง 4 รับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับ คนละ 5 หมื่นบาท แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิด และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี และให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ เป็นเวลา 1 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย
