ก.อุตฯ ดึง 6 หน่วยงานเฝ้าระวังยาเสพติด

กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – ก.อุตฯ ยกเครื่องล้างบางสกัดกั้นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จัดชุดตรวจลงพื้นที่เอกซเรย์จุดเสี่ยง ดึง 6 ส่วนราชการผนึกกำลังร่วมเฝ้าระวังยาเสพติด เผย 1,000 โรงงานขานรับดำเนินการเข้มข้นตลอด 3 เดือน  



นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำ “โครงการโรงงานทั่วไทยร่วมใจต้านภัยยาเสพติด ระยะเวลา 3 เดือน (พ.ย.61-ม.ค.62) ตามที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงงานอุตสาหกรรม  ทั้งนี้ กรมโรงงานฯ ได้สำรวจข้อมูลโรงงานที่ใช้สารเคมี 20 รายการ ตามบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงยุติธรรมครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว โดยมีข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการและปริมาณสารเคมีที่นำเข้าและส่งออกทั้งหมดและพบว่าสารดังกล่าวมีปริมาณการนำเข้าและส่งออกปี 2560 และ 2561 ทั้งสิ้น 1.1 ล้านเมตริกตัน – 7.7 แสนเมตริกตัน ลดเหลือ 9.5– 6.2 แสนเมตริกตัน หรือประมาณร้อยละ 13 ทั้งนี้ จะเน้นการตรวจสถานประกอบการที่มีใบอนุญาตนำเข้า ส่งออกและมีไว้ในครอบครองสารโซเดียมไซยาไนด์ทุกราย หากพบการกระทำที่ผิดกฎหมายจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด


นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการศึกษาทางวิชาการ สารโซเดียมไซยาไนด์สามารถนำไปใช้ผลิตยาบ้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่มีการลักลอบนำสารดังกล่าวออกผ่านเส้นทางธรรมชาติในลักษณะกองทัพมด ซึ่งแต่ละครั้งจะพบปริมาณมากขึ้นและไม่ได้เข้าผ่านทางช่องทางปกติที่มีกระทรวงฯ กำกับดูแลภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ. 1988  อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ได้พิจารณาเพิ่มมาตรการควบคุมดูแลที่เข้มงวดกวดขันยิ่งขึ้นเริ่มจากสารโซเดียมไซยาไนด์ เพื่อเป็นการสกัดกั้นการนำไปใช้ผลิตยาเสพติดตั้งแต่ต้นทางอย่างเร่งด่วนและทันท่วงที

ทั้งนี้ แบ่งการทำงานเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน กระทรวงฯ ร่วมกับหน่วยปราบปรามเข้าตรวจ ทั้งการนำเข้า กรณีนำไปใช้ในโรงงาน ต้องจัดเตรียมข้อมูลกระบวนการผลิต และต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ตลอดเวลา กรณีนำเข้าเพื่อจำหน่ายจะมีอายุใบอนุญาตไม่เกิน 1 ปี และเพิ่มเงื่อนไขการอนุญาตโดยให้แจ้งชื่อลูกค้า และวัตถุประสงค์การนำไปใช้  ส่วนการส่งออก จะพิจารณาออกใบอนุญาตเป็นรายครั้ง แทนการอนุญาตเดิมซึ่งกำหนดไว้ 3 ปี และให้แจ้งข้อมูลผู้ซื้อ ที่อยู่ และวัตถุประสงค์การนำไปใช้ โดยกระทรวงฯ จะประสานข้อมูลไปยัง สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อทำการตรวจสอบใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาต ส่วนระยะกลาง จะเชิญประชุมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงข้อมูลแนวทางและมาตรการที่จะดำเนินการเพิ่มเติม เพื่อถือเป็นระเบียบปฏิบัติต่อไป และระยะยาว ดำเนินการทบทวนและปรับปรุงบัญชีรายชื่อสารเคมีตามแบบ วอ./อก.7 เพื่อทำให้ทราบวัตถุประสงค์การนำไปใช้งาน และศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลของสารเคมีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากข้อมูลผู้ประกอบการ และปริมาณการนำเข้า-ส่งออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง

สำหรับโครงการโรงงานทั่วไทยร่วมใจต้านภัยยาเสพติด มีสถานประกอบการกว่า 1,000 โรงงานเข้าร่วม และมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ ในช่วง 3 เดือน สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการโรงงาน เป็นการลงนามร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ นอกจากนี้ ยังจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นการลงนาม ระหว่างอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับสถานประกอบการโรงงานเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และระหว่างอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ กับสถานประกอบการโรงงานในพื้นที่ ณ ที่ทำการสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด โดยดำเนินการพร้อมกับส่วนกลางผ่านระบบ VDO Conference และ Facebook Live. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

พลบค่ำโชว์ : “ผอ.คนสวย” เยือนเรื่องพลบค่ำ แห่โฟกัสหน้าเด็กมาก

“ผอ.พีช” ดร.ศรประภา สิริภัทรวิช ผอ.คนสวย แห่งโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย มาเยือนรายการ “เรื่องพลบค่ำ” พูดคุยกับ “กำภู-รัชนีย์” ถึงกระแสฮือฮา กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน หลังแต่งชุดนักเรียนขึ้นเวทีร้องเพลงในงานปัจฉิมนิเทศ ม.6 ชาวเน็ตแห่โฟกัสหน้าเด็กมาก นึกว่านักเรียน ม.ปลาย

รอเก้อ! ไม่มีนัดเคลียร์ใจ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ไร้เงา “ทักษิณ”

รอเก้อ! ไม่มีนัดเคลียร์ใจ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ไร้เงา “ทักษิณ” ส่วน “เนวิน” พักที่ รร.พูลแมน ประจำ จับตา DSI พรุ่งนี้ รับคดี สว.หรือไม่

“ปวีณา” พาครอบครัว “น้องมายด์” พบ ตร.สากล ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิต

“ปวีณา” พาครอบครัว “น้องมายด์” พบตำรวจสากล เร่งตรวจสอบเสียชีวิตแล้วจริงหรือไม่ ด้านพ่อเผยอยากรู้ลูกตายจริงหรือไม่ และใครเป็นคนทำ ระบุ 6 ปีที่ผ่านมาไม่ได้พบลูกเลย หากเสียชีวิตจริงก็อยากนำกระดูกกลับมาทำพิธีที่บ้านเกิด

“BGF-DKBA” เร่งปราบแก๊งคอลฯ โอดแบกภาระดูแลไม่ไหว

“กกล.BGF-กกล.DKBA” เร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กว่า 6,900 คน โอดแบกภาระดูแลไม่ไหว ขอ ไทยประสานสถานทูตรีบรับตัวกลับโดยเร็ว