สำนักข่าวไทย 3 ธค..-9 ราชมงคลขานรับ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” เกิดประโยชน์ ไร้ช่องโหว่ แตกต่างจากทุนทั่วไป กสศ.ชี้ ลงทุนน้อยแต่ผลลัพธ์คุ้มค่า หนุนเด็กยากจนด้อยโอกาสเรียนต่อสูงขึ้น ยกระดับเป็นสถาบันนวัตกรรมชั้นสูง และยังตอบโจทย์ตลาดแรงงานไทย
ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน(มทร.อีสาน) ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนกับผู้แทนกองทุนเเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เกี่ยวกับโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ถือว่าเป็นทุนที่ตอบโจทย์หลายด้าน จากข้อมูลพบว่าทุกวันนี้เยาวชนต่ำกว่าปริญญาตรี มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง โดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา เด็กอยากเรียนต่อ แต่ทุนไม่มี พ่อแม่ประสบปัญหาค่าใช้จ่าย หากไปขอทุนที่กู้และจ่ายคืน จะเป็นการผูกภาระ และพบเด็กหนีการจ่ายทุนคืนจำนวนมาก เนื่องจากจบการศึกษามาแล้วทำงานไม่ตรงสาย ได้เงินเดือนไม่ตรงเป้า แต่สำหรับกองทุน กสศ. มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ดูแลเด็กตั้งแต่แรกรับทุน/จะมีคนดูแลพร้อมชี้แนะ ที่สำคัญ เด็กที่จะรับทุนต้องตอบโจทย์ 10 อุตสาหกรรมหลักของประเทศ เมื่อจบแล้วมีงานทำอย่างแน่นอน กองทุนนี้จึงออกมาถูกกาลเทศะอย่างยิ่ง ถ้าเริ่มต้นแรกของโครงการ 2,500 คนสำเร็จด้วยดี จะสามารถสร้างกำลังของบุคลากรของชาติเพื่อตอบโจทย์ พร้อมต่อยอดและยกระดับต่อไป
นางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ รักษาการผอ. สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมนวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. กล่าวว่า ข้อมูลงานวิจัยบัญชีรายจ่ายด้านการศึกษาแห่งชาติปี 2559 พบว่า ภาครัฐลงทุนค่าใช้จ่ายระดับมัธยมศึกษาสายอาชีวะ อยู่ที่ 5% หรือประมาณ 43,138 ล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยหากเทียบกับรายจ่ายในระดับการศึกษาอื่นๆ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงของกสศ. จึงเป็นโครงการที่จะเข้ามาช่วยเสริมกลุ่มเป้าหมายนี้ โดยคิดค้นนวัตกรรมการสนับสนุนทุนที่ไม่ได้ใช้งบประมาณสูงแต่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่า ทำให้ได้ผลประโยชน์ 3 วินคือ 1. เด็กยากจนด้อยโอกาส มีโอกาสเรียนต่อสูงขึ้น มีศักยภาพและอาชีพต่างๆ สูงขึ้น 2. สถาบันเก่งขึ้น เพราะจะช่วยกันยกระดับการเรียนการสอนสายอาชีพเป็นนวัตกรรมชั้นสูง และตอบโจทย์ตลาดแรงงาน โจทย์ความต้องการของประเทศ และ3. ประเทศชาติได้ประโยชน์ในแง่ของกำลังคนที่จะมีคนเก่งขึ้น พัฒนาประเทศและตอบโจทย์เรื่องการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันที่รัฐบาลต้องการ
รองศาสตราจารย์ศีลศิริ สง่าจิตร ผู้ปฎิบัติหน้าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา(มทร.ล้านนา) กล่าวว่า มทร.ล้านนา เปิดสอนในระดับ ปวช. ปวส. ครอบคลุม 5 จังหวัดภาคเหนือทั้งตอนล่างและตอนบน มีจำนวนนักศึกษาทั้งหมด 20,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาที่อยู่ชายขอบติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีจำนวนมากที่ขาดแคลนโอกาสทุนทรัพย์ทางการศึกษา โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง จะตอบโจทย์นักศึกษากลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสายอาชีพที่ด้อยโอกาสได้เข้ามาในระบบและได้รับโอกาสทางการศึกษามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้กับเด็กรุ่นใหม่ค้นพบตัวเอง ว่าถนัดและมีความสามารถด้านใด ซึ่งตรงนี้จะสอดรับกับการขาดแคลนแรงงานที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่
สำหรับ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” จะสนับสนุนงบประมาณผ่านสถาบันการศึกษาประกอบด้วย ทุนสำหรับพัฒนาสถาบันการศึกษาที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกตามคุณภาพ ประมาณ 50 แห่ง ซึ่งต้องพัฒนาหลักสูตรที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของประเทศ สายอาชีพที่กำลังขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของตลาดแรงานในท้องถิ่นหรือจังหวัด รวมถึงสายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และทุนการศึกษาแก่นักศึกษาจำนวน 2,500 ทุนต่อปีที่ผ่านการคัดเลือกโดยสถาบันการศึกษา โดยเปิดกว้างให้สถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาสายอาชีพจากทุกสังกัด ทั้งนี้กำหนดรับข้อเสนอโครงการตั้งแต่ วันที่ 15 – 28 ธันวาคม 2561 โดยมีการจัดกิจกรรมชี้แจงแนวทาง “โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เพื่อตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0” แก่สถาบันการศึกษาสายอาชีพ ใน 4 ภูมิภาค ซึ่งสามารถติดตาม ข่าวสารที่ www.EEF.or.th หรือ สายด่วน โทร 02-079-5475 กด 2 ในวันและเวลาราชการ.-สำนักข่าวไทย