สน.คันนายาว 1 ธ.ค.- คู่กรณีคดีเจ้าทองคำ ควายยิ้ม เข้ามาเจรจาที่ สน.คันนายาว เพื่อติดต่อขอรับตัวเจ้าทองคำกลับบ้าน ขณะที่ทนายความดังชี้เหตุการณ์โพสต์เรี่ยไรเงินผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีก 3 คน
ความคืบหน้าคดีนายสุรัตน์ แผ้วเกิด หรือพี่คล้าว 2018 เรี่ยไรเงินไถ่ชีวิตเจ้าทองคำ ควายยิ้ม ซึ่งเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.คันนายาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตำรวจตั้ง 4 ข้อหา คือฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ความผิดตาม พ.ร.บ.การเรี่ยไร และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แต่นายสุรัตน์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวไป เนื่องจากเห็นว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ส่วนควายนำมาไว้ที่ สน.คันนายาว
ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายสุรัตน์ พร้อมทนายความเดินทางมาที่ สน.คันนายาว พร้อมรถปิกอัพต่อเติมสำหรับบรรทุกควาย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท เจ้าของเจ้าทองคำ โดยทันทีที่มาถึง นายสุรัตน์ ได้นำผ้าขาวม้าที่เคยใช้ร่วมกันกับเจ้าทองคำมาผูกรับขวัญที่คอ โดยเจ้าทองคำยังดูแข็งแรง มีเพียงขนที่แข็งกระด้าง เนื่องจากไม่ได้มีโอกาสลงไปแช่โคลนอย่างที่เคย ตั้งแต่ถูกยึดมาเป็นของกลาง และยังมีแมลงวันมาตอมที่ดวงตาของเจ้าทองคำตลอดเวลา เผยวันนี้ตั้งใจมารับเจ้าทองคำกลับบ้าน ซึ่งได้เตรียมทั้งคอกฟางและน้ำที่เจ้าทองคำเคยแช่ไว้แล้ว ซึ่งของทั้งหมดได้มาจากเงินที่เหลือจากการบริจาคจำนวน 60,000 บาท
จากนั้นจึงได้เข้าเจรจากับนายบุญเลิศ โดยมี พ.ต.อ.สิงห์ สิงหเดช ผู้กำกับการ สน.คันนายาว ร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ ตำรวจจะให้นายสุรัตน์จำลองเหตุการณ์ขณะที่นายสุรัตน์ถ่ายรูปเซลฟี่ให้เจ้าทองคำ และเจ้าทองคำยิ้ม และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม หลังการจำลองเหตุการณ์แล้ว ตำรวจจะมอบเจ้าทองคำกลับคืนไป หลังตำรวจได้ยึดไว้เป็นของกลาง ตามกฎหมายฟอกเงิน เพราะถือเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากความผิดมูลฐานเรื่องการฉ้อโกงประชาชน
ก่อนหน้านี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ 1 ในผู้เสียหายที่ร่วมบริจาคเงินไถ่ชีวิต “เจ้าทองคำ” ควายยิ้ม กับนายสุรัตน์ นำคลิปวิดีโอ 1 ใน 9 คลิป ที่นายสงกานต์และทีมงานลงไปสัมภาษณ์นายสุรัตน์และเพื่อนในพื้นที่อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท ซึ่งพบพฤติกรรมน่าสงสัยว่าตั้งใจฉ้อโกง โดยขณะทีมงานถามถึงเจ้าของที่แท้จริงของ “เจ้าทองคำ” นายสุรัตน์กลับมีพิรุธ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบว่าเป็นใคร ในคลิปวิดีโออื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่า นายสุรัตน์รู้อยู่แล้วว่า นายก อบต.สุขเดือนห้า ไม่ได้จะขายเจ้าทองคำให้กับโรงเชือด หรือบุคคลอื่น แต่กลับออกมาเรี่ยไรเงิน เพื่อซื้อเจ้าทองคำมาเป็นของตัวเอง
ทั้งนี้ เชื่อว่านายสุรัตน์ไม่ได้ทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว แต่มีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีก 3 คน โดยใช้โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องวางแผน เปิดเพจ คิดถ้อยคำโพสต์เรี่ยไรไถ่ชีวิต และพบว่ากลุ่มดังกล่าวได้ลบและบล็อกโพสต์ facebook ออกจากระบบแล้ว แต่เชื่อว่าตำรวจจะกู้ข้อมูลได้ และเรื่องที่ “เจ้าทองคำ” ยิ้มได้ เกิดจากการดึงสนตะพายไปข้างหลัง และการใช้ปัสสาวะสาดไปที่จมูกก็จะทำให้เจ้าทองคำยิ้มขึ้นมาได้เหมือนกับการใช้ยาสีม่วงป้ายปากเด็ก
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อหนุ่มชัยนาท ถ่ายภาพเซลฟี่กับควายยิ้ม จนโด่งดังในโลกออนไลน์ ต่อมา นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ พี่คล้าว 2018 เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า “เจ้าทองคำ” ควายยิ้มเพศผู้อายุ 5 ปี เป็นควายที่เจ้าของมาฝากให้เขาเลี้ยงร่วมกับควายเพศเมียอีก 2 ตัว และเจ้าของกำลังจะขายควายทั้งหมดที่ฝากไว้ รวมถึงเจ้าทองคำด้วย ในราคาตัวละ 100,000 บาท และมีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว จึงตัดสินใจเปิดรับบริจาค เพื่อระดมเงินจากผู้ใจบุญไถ่เจ้าทองคำ ได้สำเร็จ พร้อมทั้งขอบคุณน้ำใจคนที่ช่วยไถ่ชีวิต แต่ปรากฏว่า นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ต.สุขเดือนห้า อ.นาขาม จ.ชัยนาท เจ้าของควายออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยขายควายให้ใคร ทั้งแจ้งความดำเนินคดีนายสุรัตน์ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย