พี่คล้าว 2018 รับตัว “เจ้าทองคำ” ควายยิ้มกลับบ้าน

สน.คันนายาว 1 ธ.ค.- คู่กรณีคดีเจ้าทองคำ ควายยิ้ม เข้ามาเจรจาที่ สน.คันนายาว เพื่อติดต่อขอรับตัวเจ้าทองคำกลับบ้าน ขณะที่ทนายความดังชี้เหตุการณ์โพสต์เรี่ยไรเงินผ่านเฟซบุ๊ก มีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีก 3 คน


ความคืบหน้าคดีนายสุรัตน์ แผ้วเกิด หรือพี่คล้าว 2018 เรี่ยไรเงินไถ่ชีวิตเจ้าทองคำ ควายยิ้ม ซึ่งเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.คันนายาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตำรวจตั้ง 4 ข้อหา คือฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ความผิดตาม พ.ร.บ.การเรี่ยไร และความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน แต่นายสุรัตน์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวไป เนื่องจากเห็นว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ส่วนควายนำมาไว้ที่ สน.คันนายาว 

ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา นายสุรัตน์ พร้อมทนายความเดินทางมาที่ สน.คันนายาว พร้อมรถปิกอัพต่อเติมสำหรับบรรทุกควาย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท เจ้าของเจ้าทองคำ โดยทันทีที่มาถึง นายสุรัตน์ ได้นำผ้าขาวม้าที่เคยใช้ร่วมกันกับเจ้าทองคำมาผูกรับขวัญที่คอ โดยเจ้าทองคำยังดูแข็งแรง มีเพียงขนที่แข็งกระด้าง เนื่องจากไม่ได้มีโอกาสลงไปแช่โคลนอย่างที่เคย ตั้งแต่ถูกยึดมาเป็นของกลาง และยังมีแมลงวันมาตอมที่ดวงตาของเจ้าทองคำตลอดเวลา เผยวันนี้ตั้งใจมารับเจ้าทองคำกลับบ้าน ซึ่งได้เตรียมทั้งคอกฟางและน้ำที่เจ้าทองคำเคยแช่ไว้แล้ว ซึ่งของทั้งหมดได้มาจากเงินที่เหลือจากการบริจาคจำนวน 60,000 บาท


จากนั้นจึงได้เข้าเจรจากับนายบุญเลิศ โดยมี พ.ต.อ.สิงห์ สิงหเดช ผู้กำกับการ สน.คันนายาว ร่วมด้วย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา นอกจากนี้ ตำรวจจะให้นายสุรัตน์จำลองเหตุการณ์ขณะที่นายสุรัตน์ถ่ายรูปเซลฟี่ให้เจ้าทองคำ และเจ้าทองคำยิ้ม และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม หลังการจำลองเหตุการณ์แล้ว ตำรวจจะมอบเจ้าทองคำกลับคืนไป หลังตำรวจได้ยึดไว้เป็นของกลาง ตามกฎหมายฟอกเงิน เพราะถือเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากความผิดมูลฐานเรื่องการฉ้อโกงประชาชน 

ก่อนหน้านี้ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ 1 ในผู้เสียหายที่ร่วมบริจาคเงินไถ่ชีวิต “เจ้าทองคำ” ควายยิ้ม กับนายสุรัตน์ นำคลิปวิดีโอ 1 ใน 9 คลิป ที่นายสงกานต์และทีมงานลงไปสัมภาษณ์นายสุรัตน์และเพื่อนในพื้นที่อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท ซึ่งพบพฤติกรรมน่าสงสัยว่าตั้งใจฉ้อโกง โดยขณะทีมงานถามถึงเจ้าของที่แท้จริงของ “เจ้าทองคำ” นายสุรัตน์กลับมีพิรุธ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบว่าเป็นใคร ในคลิปวิดีโออื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่า นายสุรัตน์รู้อยู่แล้วว่า นายก อบต.สุขเดือนห้า ไม่ได้จะขายเจ้าทองคำให้กับโรงเชือด หรือบุคคลอื่น แต่กลับออกมาเรี่ยไรเงิน เพื่อซื้อเจ้าทองคำมาเป็นของตัวเอง 

ทั้งนี้ เชื่อว่านายสุรัตน์ไม่ได้ทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว แต่มีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังอีก 3 คน โดยใช้โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องวางแผน เปิดเพจ คิดถ้อยคำโพสต์เรี่ยไรไถ่ชีวิต และพบว่ากลุ่มดังกล่าวได้ลบและบล็อกโพสต์ facebook ออกจากระบบแล้ว แต่เชื่อว่าตำรวจจะกู้ข้อมูลได้ และเรื่องที่ “เจ้าทองคำ” ยิ้มได้ เกิดจากการดึงสนตะพายไปข้างหลัง และการใช้ปัสสาวะสาดไปที่จมูกก็จะทำให้เจ้าทองคำยิ้มขึ้นมาได้เหมือนกับการใช้ยาสีม่วงป้ายปากเด็ก


สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อหนุ่มชัยนาท ถ่ายภาพเซลฟี่กับควายยิ้ม จนโด่งดังในโลกออนไลน์ ต่อมา นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ พี่คล้าว 2018 เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า “เจ้าทองคำ” ควายยิ้มเพศผู้อายุ 5 ปี เป็นควายที่เจ้าของมาฝากให้เขาเลี้ยงร่วมกับควายเพศเมียอีก 2 ตัว และเจ้าของกำลังจะขายควายทั้งหมดที่ฝากไว้ รวมถึงเจ้าทองคำด้วย ในราคาตัวละ 100,000 บาท และมีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว จึงตัดสินใจเปิดรับบริจาค เพื่อระดมเงินจากผู้ใจบุญไถ่เจ้าทองคำ ได้สำเร็จ พร้อมทั้งขอบคุณน้ำใจคนที่ช่วยไถ่ชีวิต แต่ปรากฏว่า นายบุญเลิศ กาฬภักดี  นายก อบต.สุขเดือนห้า ต.สุขเดือนห้า อ.นาขาม จ.ชัยนาท เจ้าของควายออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยขายควายให้ใคร ทั้งแจ้งความดำเนินคดีนายสุรัตน์ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย