กระบี่ 30 พ.ย.- หลังจากประกาศกรมอุทยานแห่งชาติฯ ปิดอ่าวมาหยาต่อเนื่องแล้ว 6 เดือน การฟื้นฟูทางธรรมชาติมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะฉลามหูดำฝูงใหญ่ที่กลับมาอาศัยบริเวณหน้าหาดอีกครั้งในรอบ 30 ปี
หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีประกาศปิดอ่าวมาหยา ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ อย่างไม่มีกำหนด รวมเวลาแล้วกว่า 6 เดือน สภาพของอ่าวที่เคยพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว และเรือนำเที่ยวกว่า 100-200 ลำ/วัน หายไป แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมา คือ โอกาสของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในขณะนี้ อ่าวมาหยาเต็มไปด้วยฝูงฉลามหูดำจำนวนมาก
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บอกว่า กว่า 30 ปี แทบจะไม่มีรายงานพบฉลามหูดำในพื้นที่เลย ด้วยอ่าวมาหยาถูกใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวอย่างหนัก แต่หลังจากปิดอ่าวเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ ก็ส่งผลให้ฉลามหูดำเริ่มกลับเข้ามาหากินในพื้นที่ โดยทีมวิจัยการฟื้นฟูอ่าวมาหยาสำรวจพบฉลามหูดำกว่า 50 ตัว
การวิจัยยังพบว่า อ่าวมาหยามีลักษณะพิเศษ เรียกว่าอ่าวแบบลากูน น้ำนิ่งเป็นพิเศษและมีแนวปะการัง ซึ่งเป็นลักษณะที่ฉลามหูดำชื่นชอบเข้ามาหากินและอาศัย อีกทั้งอ่าวสงบขึ้น ไร้การรบกวนของเรือ ที่ในอดีตเคยเข้าออกอ่าวจำนวนมาก
สำหรับฉลามหูดำหรือฉลามครีบดำ ยาวประมาณ 1 เมตร-1 เมตร 50 เซนติเมตร ถือว่าเป็นหลักของระบบนิเวศปะการัง ช่วยควบคุมปริมาณสัตว์น้ำอื่น ทำให้ระบบนิเวศทางทะเลมีความสมดุลเทียบเท่ากับเสือในป่า และหากเทียบกับพื้นที่ต่อพื้นที่แล้ว อ่าวมาหยาอาจมีฉลามหูดำหนาแน่นมากที่สุด 1ใน 10 อันดับของโลก
การฟื้นตัวของแนวปะการัง และการกลับคืนของฉลามหูดำ เป็นสัญญาณถึงแนวทางการอนุรักษ์ธรรมชาติที่เหมาะสม ซึ่งจะเป็นโมเดลการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลแห่งอื่นต่อไป ทำให้การอนุรักษ์และการท่องเที่ยวเดินไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย