แถลงความพร้อม 25 เส้นทางจราจรกิจกรรมปั่นจักรยาน “bike อุ่นไอรัก”

กรุงเทพฯ 30 พ.ย.- ตำรวจแถลงความพร้อมด้านการจราจรกิจกรรม ปั่นจักรยาน “bike อุ่นไอรัก” โดยร้านค้าสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติทั้ง 25 เส้นทางทั้งใน กทม.และสมุทรปราการ 


พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตัวแทนหน่วยงานรับผิดชอบงานจราจรในกิจกรรมปั่นจักรยาน bike อุ่นไอรัก แถลงข่าวมาตรการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ระหว่างการซ้อมใหญ่วันที่ 2 ธันวาคม และวันประกอบกิจกรรมจริง 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้ 

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า สถานประกอบการ ร้านค้าตามเส้นทางจักรยานทั้ง 25 เส้นทางในกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ สามารถเปิดกิจการได้ตามดุลยพินิจของผู้ประกอบการ เชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวจะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ย่อมทำให้เป็นผลดีกับกิจการค้าขายตามเส้นทางทั้งหมด


สำหรับการปิดการจราจรในกรุงเทพมหานคร จะเริ่มต้นในเวลา 12.00-20.00 น. ทั้งวันซ้อมใหญ่และวันจริง ส่วนในจังหวัดสมุทรปราการจะเริ่มในเวลา 13.00 น. หากขบวนปั่นจักรยานผ่านเส้นทางใดไปแล้ว เจ้าหน้าที่จะเร่งเปิดการจราจรทันที

ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์ที่ต้องการข้ามจากฝั่งธนบุรี จากถนนพระรามที่ 2 แนะนำให้ใช้ทางด่านเป็นหลัก ขณะที่รถยนต์จากถนนเจริญนคร และถนนราษฎร์บูรณะ แนะนำให้ใช้สะพานกรุงเทพ เช่นเดียวกับรถยนต์จากจังหวัดสมุทรปราการ ที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ควรใช้ทางด่วน โดยทางด่วนทุกแห่ง รวมถึงรถไฟ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส จะไม่คิดค่าบริการกับผู้ที่แสดงหลักฐานการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม bike อุ่นไอรัก 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบเส้นทางกิจกรรม และเส้นทางแนะนำที่ให้ทดแทนในระหว่างกิจกรรมทั้งสองวันได้ที่ ได้ที่ เว็บไซต์ www.bikeunairak2018.com หรือเฟซบุ๊ก เพจอุ่นไอรัก 


ส่วนวันที่ 5 ธ.ค.61 ที่จะมีการจัดกิจกรรมกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณท้องสนามหลวง และจะมีการตั้งริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ 2 ริ้วขบวน ทำให้ต้องปิดการจราจรโดยรอบ รวม 12 เส้นทาง ตั้งแต่ถนนราชดำเนินกลาง ราชดำเนินใน สนามไชย หน้าพระลาน หน้าวัดพระธาตุ ถนนดินสอ ถนนตะนาว ถนนราชินี ถนนหับเผย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี และถนนสราญรมย์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. และอีก 3 เส้นทางที่จะจัดให้เดินรถทางเดียว คือ ถนนจันทร์ ถนนมหาราช และถนนท้ายวัง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง