กรุงเทพฯ 29 พ.ย. – กรมสรรพากรคาดเก็บภาษีปี 62 ตามเป้า 2 ล้านล้านบาท แจงช้อปช่วยชาติหนุนรายย่อยทั้งชาวสวนยาง สินค้าโอทอป ย้ำภาษีออนไลน์ไม่ได้ตามเก็บภาษีรายย่อย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวระหว่างการจัดประชุมสัมมนาผู้บริหารกรมสรรพากรทั่วประเทศ เพื่อมอบนโยบายการจัดเก็บภาษีปีงบประมาณ 2562 ตามยุทธศาสตร์ D2RIVE หวังยกระดับประสิทธิภาพการจัดเก็บให้ทันสมัย รวดเร็ว และเป็นธรรม ด้วยการเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของผู้เสียภาษีผ่านระบบดิจิทัล รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้เสียภาษีอย่างรวดเร็ว หวังเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี เพราะระบบเทคโนโลยีจะช่วยแยกคนเสียภาษีถูกต้องออกจากผู้หลีกเลี่ยงภาษีได้ชัดเจน คาดว่าจัดเก็บภาษีปีงบประมาณ 2562 ได้ตามเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังต้องเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมาย E-Business เพื่อจัดเก็บภาษีผ่านออนไลน์ นับเป็นกฎหมายสำคัญมาก เพราะปัจจุบันการซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์เติบโตสูงมาก และมีแนวโน้มซื้อผ่านโซเชียลมากขึ้นประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ได้นำฎหมายดังกล่าวมาควบคุมดูแล และได้หารือกับผู้ให้บริการออนไลน์ขนาดใหญ่ระดับโลก ทั้งอาลีบาบา เฟสบุ๊ค และรายอื่น ต่างพร้อมดำเนินตามกฎหมายไทยหากออกกฎหมายมาบังคับใช้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการค้าขาย โดยเฉพาะการออกกฎหมาย E-Payment แนวทางดังกล่าวไม่ได้ออกมาเพื่อไล่ล่าตามเก็บภาษีจากรายย่อยรายเล็ก แต่เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าขาย ลดขั้นตอนการทำเอกสาร และให้ธนาคารช่วยเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย กรมสรรพากรจะเป็นผู้ติดตามดูแลให้เกิดความเป็นธรรม
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลเบื้องต้นโครงการช้อปช่วยชาติเปิดให้ประชาชนซื้อสินค้า 3 กลุ่มหลัก เพื่อนำใบเสร็จมายื่นหักลดหย่อนภาษี เพราะไม่ต้องการให้เสพติดการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายท้ายปี ทำให้การซื้อขายหยุดชะงัก เนื่องจากประชาชนมักจะรอการซื้อสินค้าจากมาตรการรัฐ จึงช่วยเหลือเพียงบางกลุ่มที่จำเป็น สำหรับสินค้าบางรายการที่กำหนดให้ใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี ประกอบด้วย 1. ยางรถยนต์ผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดทั้งในและต่างประเทศ หากใช้น้ำยางในประเทศเข้าร่วมโครงการได้ โดยจะนำหลักการผลิตยางมาเปรียบเทียบ หากเป็นล้อรถยนต์ธรรมดา 1 เส้นใช้ยางพาราผลิตล้อยาง 2 กิโลกรัม ยางล้อรถบรรทุก 1 เส้นใช้ยางพารา 12 กิโลกรัม เพื่อกำหนดโควตาให้รับซื้อยางพาราเพิ่มเติม และรับสติกเกอร์ไปติดกับผลิตภัณฑ์รองรับเข้าโครงการช้อปช่วยชาติ เพราะการผลิตในช่วง 1-2 เดือนนี้เอกชนคงดำเนินการผลิตล้อยางไม่ทันเวลาการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี
2.การส่งเสริมซื้อสินค้าโอทอป เพื่อช่วยเพิ่มตลาดให้กับสินค้าชุมชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นของฝาก ของขวัญให้กับญาติ ลูกค้า เพียงนำใบเสร็จที่ระบุชื่อผู้ซื้อ ผู้ขาย รายการสินค้าและที่อยู่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพราะจะทำให้ชุมชนได้ประโยชน์ และ 3.การซื้อหนังสือ รวมถึง E-Book แต่ไม่รวมหนังสือพิมพ์ วารสาร เพราะเป็นการซื้อเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่านมากขึ้น สำหรับ E-Book เมื่อซื้อผ่านออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ หากมีเอกสารหลักฐานชัดเจนในการซื้อขายนำมาหักลดหย่อนได้ โครงการช้อปช่วยชาติกำหนดให้เริ่มตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2561 – 15 มกราคม 2562 โดยนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ วงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ขอย้ำว่าหากซื้อสินค้าภายในปี 2561 ยื่นภาษีช่วงต้นปี 2562 และหากซื้อเดือนมกราคม เพราะยอดซื้อยังไม่ครบวงเงินที่กำหนดนำไปใช้ยื่นภาษีปี 2563 กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการช้อปช่วยชาติให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในวันที่ 4 ธันวาคม .-สำนักข่าวไทย