กรุงเทพฯ 28 พ.ย.-ปตท.สผ. รุกธุรกิจใหม่ รองรับเทคโนโลยยีเปลี่ยนโลก ปีหน้าเตรียมตั้งบริษัท เทคโนโลยีหุ่นยนต์-ปัญญาประดิษฐ์ให้บริการลูกค้า พร้อมเล็งลงทุน Gas to Power ในเมียนมา พร้อมปรับวิสัยทัศน์ใหม่เป็น “Energy Partner of Choice ”
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า ปตท.สผ.เตรียมแผนรุกธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและยั่งยืน นอกเหนือจากธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียมที่ยังเป็นธุรกิจหลักอยู่ ล่าสุดได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ร่วมกับปัญญาประดิษฐ์ที่บริษัทฯได้พัฒนาอยู่แล้ว เช่น โดรน ที่ใช้ในการตรวจสอบสภาพท่อก๊าซฯและปล่องเผาก๊าซฯเหลือทิ้ง และหุ่นยนต์ตรวจสอบท่อหรือแท่นปิโตรเลียมในทะเล เพื่อให้บริการกับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากเดิมที่ให้บริการแก่ปตท.สผ.เท่านั้น โดยมีแผนที่จะตั้งบริษัทในพื้นที่ EECi ที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จังหวัดระยอง
บริษัทฯยังจับมือกับบริษัทในกลุ่มปตท.เพื่อหาโอกาสการลงทุนต่อยอดจากการผลิตปิโตรเลียมไปสู่การผลิตไฟฟ้า (Gas to Power) ในเมียนมา โดยยื่นแผนให้รัฐบาลเมียนมา เพื่อขอสำรวจเพิ่มในแหล่งซอติก้าฝั่งตะวันตกคาดว่าจะเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯมากขึ้น ก่อนวางท่อก๊าซฯเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าแถบย่างกุ้ง รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันแหล่งซอติก้า มีกำลังการผลิตอยู่ 300 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ป้อนให้เมียนมา 60 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ที่เหลือจำหน่ายให้ไทย
ส่วนความคืบหน้าการกลับเข้าไปลงทุนใหม่ในอินโดนีเซียอีกครั้งหลังจากกรณีอินโดนีเซียถอนฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีน้ำมันรั่วไหลจากแหล่งมอนทารา แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่จะต้องพิสูจน์เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนโดยจะจ้างที่ปรึกษาคนกลางเป็นผู้ตัดสินคาดว่าจะใช้เวลาราว 1ปีก่อนตัดสินใจว่าจะกลับไปลงทุนในอินโดนีเซียใหม่
นอกจากนี้ ปตท.สผ.ได้ปรับวิสัยทัศน์ (VISION)ใหม่จากเดิมบริษัทที่ต้องการเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำในเอเชีย ที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงานที่สามารถแข่งขันได้ เทคโนโลยี และหัวใจสีเขียว เปลี่ยนมาเป็น “Energy Partner of Choice ” ตามเทรนด์ของโลกที่ต้องไปด้วยกัน เป็นหุ้นส่วนช่วยเกื้อกูลกัน และมีความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรมเพื่อสร้างคุณค่าในระยะยาว ทั้งผู้ถือหุ้น,คู่ค้า,ชุมชน,สิ่งแวดล้อม ,พนักงาน ซึ่งต่างจากวิสัยทัศน์เดิมที่ต้องการเป็นบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมชั้นนำในเอเชีย ที่ขับเคลื่อนด้วยผลการดำเนินงานที่สามารถแข่งขันได้ เทคโนโลยี และหัวใจสีเขียว(Leading Asian E&P company driven by competitive performance, advanced technology and green practices)-สำนักข่าวไทย
