กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค.61 ขยายตัวร้อยละ 4.08 คาดตลอดปีนี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและจีดีพีภาคอุตสาหกรรมจะโตเท่ากันร้อยละ 2.5 ส่วนปีหน้าคาดโตร้อยละ 2.0-3.0
นายอดิทัต วะสีนนท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ( MPI) เดือนตุลาคม 2561 ว่า ดัชนี MPI ขยายตัวร้อยละ 4.08 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผล 10 เดือนแรกขยายตัวร้อยละ 3.04 อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนตุลาคม 2561 อยู่ที่ร้อยละ 67.75 อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ บุหรี่ น้ำตาลทราย น้ำมันปิโตรเลียม และเครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน และคาดว่าตลอดปีนี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและจีดีพีภาคอุตสาหกรรมจะโตเท่ากันที่ร้อยละ 2.5
นายอดิทัต กล่าวถึงแนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมสำคัญปี 2562 ว่า คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีนี้ โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะโตในช่วงร้อยละ 2.0-3.0 จากปัจจัยสนับสนุนทั้งความชัดเจนการเลือกตั้ง แรงขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐจากความคืบหน้าของโครงการลงทุนสำคัญและการดำเนินงานภายใต้แผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่วนปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ความผันผวนของระบบเศรฐษกิจและการเงินโลก ทั้งความไม่แน่นอนมาตรการการค้าของสหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ความผันผวนของราคาน้ำมัน และความไม่แน่นอนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญ
สำหรับอุตสาหกรรมที่จะขยายตัวปีหน้า เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีนี้ เนื่องจากความต้องการส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นและตามความต้องการของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมรถยนต์ คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 2.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ร้อยละ 4.76 เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศจะขยายตัวจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนที่จะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากเกิดความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากเสถียรภาพทางการเมือง ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และการส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวตามอุปสงค์โลก อย่างไรก็ตาม ยังต้องคำนึงถึงผลของสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
ด้านอุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าขยายตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.5 จากปัจจัยบวกอย่างเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวระดับใกล้เคียงปีก่อน ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าด้วยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐปี 2562 ประกอบกับแนวโน้มราคาส่งออกสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว น้ำตาลทราย แป้งมันสำปะหลัง และสับปะรดกระป๋อง รวมทั้งการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าสำคัญ เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง ไก่แปรรูป และทูน่ากระป๋อง นอกจากนี้ คาดว่าสินค้าสำคัญอีกรายการที่จะกลับมาขยายตัว คือ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าการผลิตเส้นใยสิ่งทอจะขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2561 โดยเฉพาะเส้นใยสังเคราะห์และเส้นใยสมบัติพิเศษ อุตสาหกรรมเหล็ก คาดว่าการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปรับเพิ่มขึ้นทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเหล็กทรงยาวและกลุ่มเหล็กทรงแบน จากคำสั่งซื้อที่ปรับเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ผลจากการก่อสร้างที่ขยายตัวตามแรงสนับสนุนของภาครัฐ และการขยายตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของภาคเอกชน โดยเฉพาะการก่อสร้างที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า. – สำนักข่าวไทย