กทม. 24 พ.ย. – สภากาชาดไทย…ขอเชิญย้อนรำลึกค้นหา “มนต์เสน่ห์ งานกาชาด จากวันวาน สู่วันนี้” ในงานกาชาดประจำปี 2561 ณ สวนลุมพินี
กองอำนวยการจัดงานกาชาด สภากาชาดไทย กำหนดจัดงานกาชาดประจำปี 2561 ขึ้นภายใต้แนวคิด “125 ปี สภากาชาดไทย ร้อยดวงใจส่งต่อการให้ที่งดงาม” ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2561 ณ สวนลุมพินี ถนนพระรามที่ 4 เพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย โดยมี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิ สโมสร รวมถึงบริษัท และร้านค้าทั่วไปเข้าร่วมออกร้าน
มนต์เสน่ห์ งานกาชาด จากวันวาน สู่วันนี้ กว่า 90 ปี ที่สภากาชาดไทยจัดให้มีงานกาชาด มหรสพการกุศลคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ครั้งแรกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2465-8 เมษายน 2466 ซึ่งสมัยนั้นใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันปีใหม่เรียกงานนี้ว่า “การรับประชาสมาชิก พ.ศ. 2466” มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประชาสมาชิกโดยเสียค่าบำรุง 1 บาทต่อปี ในปีแรกมีผู้สมัครถึง 13,436 คน ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภากาชาดสยามจัดให้มีขบวนแห่รถยนต์ รถม้า และรถจักรยานที่ตกแต่งเป็นรูปต่างๆ เกี่ยวกับการอนามัย มีมหรสพแตรวงทหารบก ทหารเรือ จำอวด งานแห่กาชาดนี้จึงนับว่าเป็นต้นกำเนิดของงานกาชาดและเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดมหรสพเพื่อการหารายได้บำรุงสภากาชาดไทยจวบจนปัจจุบัน
ต่อมาคณะกรรมการจัดงานกาชาดได้เพิ่มเติมกิจกรรมให้สอดคล้องกับสมัยนิยมและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น อาทิ การจัดแข่งขันว่าว การจัดขายลูกลอยกาชาด หรือลูกสวรรค์ ซึ่งในอดีตลูกสวรรค์จะมีเฉพาะในงานกาชาดเท่านั้น ปี พ.ศ.2472 มีกิจกรรม “สอยผลกัลปพฤกษ์” เพื่อชิงรางวัลเป็นครั้งแรก มีการจัดแสดงมอเตอร์ไซค์ไต่ถังเหล็ก เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้เข้าชมงานกาชาดเป็นอย่างยิ่ง และในปี พ.ศ.2476 สภากาชาดไทยจัดให้มีการออกล็อตเตอรี่ราคาฉบับละ 1 บาทในงานกาชาดเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ปี พ.ศ.2505 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานการแสดงบัลเลต์ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์เรื่อง “มโนราห์” โดยพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการจัดฉาก แสง สี ด้วยพระองค์เองอีกทั้งยังมีการประกวดธิดากาชาด เริ่มต้นในปีพ.ศ. 2504 ซึ่งผู้ได้รับตำแหน่งจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลกับสภากาชาดไทย ต่อมาเปลี่ยนชื่อการประกวดเป็นการสรรหา “กุลบุตร-กุลธิดากาชาด” เพื่อคัดสรรผู้แทนเยาวชนไทยที่ดี เก่ง รอบรู้ สุขภาพดี และมีจิตสำนึกในการบำเพ็ญประโยชน์ในสังคม
ตลอด 90 ปี 4 สถานที่งานกาชาดในความทรงจำถือกำเนิดที่ท้องสนามหลวง เติบโตสู่พระราชอุทยานสราญรมย์ จวบจนปี พ.ศ. 2481 ย้ายมาจัดที่สถานเสาวภา จนกระทั่งปี พ.ศ.2500 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายสถานที่จัดงานมายังบริเวณสวนอัมพร ลานพระบรมรูปทรงม้า และสนามเสือป่า จนถึงปี พ.ศ.2559
และในปี พ.ศ. 2561 นี้ งานมหรสพการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยจะถูกกล่าวขานและบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 125 ปี สภากาชาดไทย ร้อยดวงใจส่งต่อการให้ที่งดงาม กับกิจกรรมสืบสานอัตลักษณ์งานกาชาดในสวนสวย ใจกลางกรุงเทพ ณ สวนลุมพินี ถ.พระรามที่ 4 ในบรรยากาศงานแฟร์ในสวน พบกับกิจกรรมสุดพิเศษมากมาย อาทิ
1.นิทรรศการพระบรมราชูปถัมภก 6 แผ่นดิน 125 ปี สภากาชาดไทย จัดแสดงเพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณและพระราชกรณียกิจของพระบรมราชูปถัมภก องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย และองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ที่ทรงมีต่อสภากาชาดไทยตลอด 125 ปี ท่านจะได้สัมผัสความงดงามแห่งการให้ผ่านภาพเหตุการณ์ต่างๆ ตลอด 9 วัน 9 คืน
2.ผลิตภัณฑ์จากร้านโครงการส่วนพระองค์ อาทิ ร้านจิตอาสา 904, ร้านโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา, ร้านสมเด็จองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย, ร้านสมเด็จองค์อุปนายิกาสภากาชาดไทย, มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก, ร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปชีพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
3.กระบวนรถแห่กาชาดในความทรงจำ เชิญทุกท่านร่วมย้อนวันวาน ระลึกถึงความงดงาม ตระการตาของริ้วกระบวนรถแห่กาชาดในความทรงจำ จากต้นกำเนิดรถแห่ในปี พ.ศ.2466 ด้วยการจำลองบรรยากาศการรับประชาสมาชิกที่หาชมได้ยาก ด้วยรถยนต์ และรถจักรยานที่ตกแต่งเป็นรูปต่างๆ เกี่ยวกับการอนามัยและ 4 ภารกิจของสภากาชาดไทย แสดงการแต่งกายตามเครื่องแบบชุดกาชาดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีมหรสพแตรวงร่วมกระบวน แห่ผ่านหน้าพลับพลาที่ประทับวันที่ 23 พฤศจิกายน พร้อมการแสดงธง แปรขบวนอักษร และจอดเทียบแสดงให้ประชาชนร่วมบันทึกภาพแห่งความทรงจำวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2561 รมราชินีนาถ, มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ และร้านมูลนิธิพระดาบส
4.การจัดแสดงนิทรรศการว่าวไทยโบราณที่หาชมได้ยาก พร้อมสาธิตการเล่นว่าว และจัดแสดงว่าวของหน่วยงานที่ร่วมประกวดตามแนวคิด “125 ปี สภากาชาดไทย ร้อยดวงใจส่งต่อการให้ที่งดงาม” โดยกองอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2561 ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ว่าวไทยโบราณและสืบสานอัตลักษณ์ของมนต์เสน่ห์งานกาชาด ซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดการแข่งขันว่าวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2467 โดยมีพระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) เป็นนายสนามว่าวจัดที่ท้องสนามหลวงมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวนมาก ขณะนั้นหารายได้บำรุงสภากาชาดไทยได้ถึง 5,045.82 บาท นอกจากนั้นยังมีการประกวดว่าวในงานกาชาดอีกด้วย จึงนับเป็นการริเริ่ม ส่งเสริม และสร้างสรรค์เกี่ยวกับว่าวไทย จนเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมา และในงานกาชาดประจำปีนี้จัดให้มีการประกวดว่าวของหน่วยงานที่ร่วมออกร้านในงานกาชาด อาทิ ว่าวปักเป้า ว่าวจุฬา ว่าวดุ๊ยดุ่ย ว่าวงู ว่าวควาย เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานที่ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกาสภากาชาดไทย ปัจจุบันมีหน่วยงานที่สมัครแล้วกว่า 10 หน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้, บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เป็นต้น จะมีการตัดสินการประกวดในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 และจัดแสดงว่าวที่ร่วมการแข่งขันตลอดการจัดงานกาชาด 9 วัน 9 คืน ณ บริเวณสวนลุมพินี และมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การจัดนิทรรศการว่าว 4 ภาค, กิจกรรม DIY การทำว่าวจากวัสดุธรรมชาติ, การนำว่าวต่างๆ ขึ้นโชว์บนท้องฟ้าและจัดพื้นที่ให้ประชาชนได้ทดลองนำว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า, การระบายสีที่ตัวว่าว โดยมีการตกแต่งสถานที่เป็นอุโมงค์ว่าว Landmark สำหรับถ่ายภาพ และการจำหน่ายว่าวชนิดต่างๆ เป็นที่ระลึก
5.การประกวดขวัญใจงานกาชาด ประจำปี 2561 จำลองรูปแบบการประกวดธิดากาชาด ครั้งแรกในปี พ.ศ.2504 สมัยนั้นเน้นความสำคัญของการมีมารยาทงามเป็นเกณฑ์การตัดสิน และผู้ครองตำแหน่งธิดากาชาดคนแรกคือ คุณจิตรา นรินทรางกูร ณ อยุธยา และคนที่สองคือ คุณจิตติมา สังขทรัพย์ และในปีนี้บรรยากากศการคัดเลือกสตรีไทยใจบุญจะกลับมาอีกครั้ง โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ และโหวตสตรีไทยใจบุญมากความสามารถจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สมาคมต่างๆ ที่ร่วมออกร้านในงานกาชาด โดยผู้ได้รับตำแหน่งขวัญใจงานกาชาดจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาทพร้อมสายสะพายและของรางวัลอื่นๆ อีกมากมายตามลำดับ ซึ่งการประกวดแบ่งออกเป็น 3 รอบ ดังนี้
รอบแรก วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.00-21.30 น. ผู้เข้าประกวดแนะนำตัวและหน่วยงานต้นสังกัด และแสดงความสามารถพิเศษหรือเสนอผลงานกิจกรรมสาธารณประโยชน์
รอบตัดสิน วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561 เวลา 18.00-21.30 น. จะทำการตัดสินผู้ชนะเลิศจำนวน 1 ตำแหน่ง รองชนะเลิศ จำนวน 2 ตำแหน่ง ขวัญใจประชาชน 1 ตำแหน่ง และรางวัลแต่งกายชุดไทยสวยงาม 1 ตำแหน่ง เครื่องแต่งกาย ชุดไทยสวยงาม
6.การประกวดร้านงานกาชาด ประจำปี 2561 พบกับการออกแบบร้านตามแนวคิด “125 ปี สภากาชาดไทย ร้อยดวงใจส่งต่อการให้ที่งดงาม” ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของหน่วยงาน ท่ามกลางบรรยากาศในสวนสวย และสอดคล้องไปกับแนวคิดที่กำหนด เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาสัมผัส ร่วมสนุก และถ่ายภาพ Check-in เป็นที่ระลึกในงาน ซึ่งมีหน่วยงานที่ร่วมสมัครแล้วแบ่งเป็นภาครัฐ ภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ อาทิ กรุงเทพมหานคร, กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงสาธารณสุข, กรมพัฒนาชุมชน, สมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทย, สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นต้น
7.การแสดงมอเตอร์ไซค์ไต่ถังเหล็ก โซนสวนสนุก ที่หาชมได้ยาก ย้อนวันวานจากปี พ.ศ. 2472 ที่สร้างความสนุกสนาน หวาดเสียวและความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาร่วมงาน โดยนายเลื่อน พงษ์โสภณ เป็นผู้แสดงการขี่จักรยานยนต์ในถังเหล็กในสมัยนั้น และในงานกาชาดประจำปีนี้จะนำกลับมาแสดงเพื่อสร้างสีสันแห่งการย้อนวันวานให้กับงานกาชาดอีกครั้งหนึ่ง เฉพาะวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์เท่านั้นระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน และ 30 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2561
8.การแสดงสารพัน แสง สี บนเวทีกลาง ตลอด 9 วัน อาทิ แหล่ 125 ปี สภากาชาดไทย จากแม่ขวัญจิตร ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ปี 2539 การแสดงลำตัดคณะแม่ศรีนวล ขำอาจ (จากคณะหวังเต๊ะ) การแสดง Bangkok Dance การแสดงคอนเสิร์ต พร้อมความบันเทิงสุดพิเศษจากเหล่าศิลปิน นักแสดง ที่ร่วมใจกันมาสร้างความสนุกสนานและความสุขที่เกิดจากการเป็นผู้ให้กับสภากาชาดไทยตลอด 9 วัน ณ เวทีกลางงานกาชาด
9.การสอยดาว เสี่ยงโชค ชิงรางวัล กับสารพันเกม สุดพิเศษ จากหน่วยงาน ที่ร่วมออกร้านในงานกาชาดประจำปี 2561 กว่า 50 หน่วยงาน ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของงานกาชาด เพราะเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมการเสี่ยงโชค ชิงรางวัลในรูปแบบต่างๆ ไว้มากมาย รวมถึงของรางวัลสุดพิเศษให้ได้ลุ้นไปตลอด 9 วัน
10.มหกรรมสินค้าราคาถูก จากร้านค้าชื่อดัง อาทิ ร้านจุฬาโอสถ เหล่ากาชาดจังหวัด สินค้าโอท้อป ร้านอาหารสภากาชาดไทยกับเมนูสุดพิเศษ “ทองพลุเสวย” และร้านค้าเอกชนกว่า 70 ร้าน
11.ตู้บริจาค #ทำดีพี่ขอแชร์
เนื่องจากการจัดงานกาชาดประจำปี 2561 นี้ สภากาชาดไทยไม่สามารถจำหน่ายบัตรผ่านประตูได้ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ให้กับสภากาชาดไทย ด้วยการบริจาคเงินผ่านตู้บริจาค ทำดีพี่ขอแชร์ ที่ออกแบบและจัดทำขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อบอกเล่าภารกิจของสภากาชาดไทย ให้ประชาชนเห็นภาพว่าเงินบริจาคทุกบาทของทุกท่านจะถูกส่งต่อไปในการดำเนินภารกิจทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย การบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ การส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการบริการโลหิต แต่ละภารกิจใช้เงินจำนวนมากในการดำเนินงาน ซึ่งตู้นี้จะปรากฎในงานจำนวน 3 ตู้ และจัดเป็นจุด Check-in ให้ประชาชนร่วมทำบุญ ถ่ายรูป บอกต่อ และร่วมแชร์ในโซเชียลมีเดีย โดยติด #ทำดีพี่ขอแชร์ ตลอดการจัดงานกาชาด 9 กัน นอกจากนี้ยังมีตู้กาชาปองให้ท่านได้ลุ้นรับของที่ระลึกที่ต้องเก็บสะสมตลอดทั้งงาน
12.การเดินทางสะดวกสุดๆ
ขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมใช้บริการรถขนส่งมวลชนสาธารณะในการมาเที่ยวงานกาชาด
ประจำปี 2561 โดยรถไฟฟ้าบีทีเอสสามารถลงที่สถานีศาลาแดง ประตูทางออกที่ 6 รถไฟใต้ดินลงที่สถานีสวนลุมพินี ประตูทางออกที่ 3 หรือ ลงที่สถานีสีลม ประตูทางออกที่ 1 นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารประจำทางที่ผ่านสวนลุมพินีทั้ง 4 ด้าน คือด้านพระรามที่ 4 ถนนราชดำริ ถนนวิทยุ และถนนสารสิน บริการอีกด้วยนอกจากนี้ท่านจะได้พบกับกิจกรรมต่างๆ ของสภากาชาดไทย อาทิ การรับบริจาคโลหิตในสวนสวย เวลา 17.00-21.00 น. บริเวณหลังอาคารลีลาศเก่า (ประตู 4 ฝั่งถนนพระราม 4) ให้บริการตรวจสุขภาพฟรีตลอดทั้งงาน เปิดรับบริจาคโลหิตในงาน จัดแสดงนิทรรศการความรู้ที่เกี่ยวกับสุขภาพและภารกิจของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ตลอดการจัดงานกาชาด ณ สวนลุมพินี 9 วัน กองอำนวยการจัดงานกาชาดขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมกันลดปริมาณขยะด้วยการ “พกถุงผ้า ลดการใช้พลาสติก” เพื่อร่วมกันดูแลสวนลุมพินี สวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพให้มีความงดงาม และเป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนของคนกรุงเทพตลอดไป
ขอเชิญทุกท่านมาร่วมบันทึกภาพแห่งความทรงจำ ทบทวนความประทับใจ และสร้างความสุขที่เกิดจากการเป็นผู้ให้ในงานกาชาดประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2561 เวลา 10.30-22.00 น. ณ สวนลุมพินี ถ.พระรามที่ 4 เดินทางสะดวก ไม่เก็บค่าบัตรผ่านประตู รายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย เพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย ให้กับประชาชนผู้ยากไร้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามภารกิจของสภากาชาดไทย .- สำนักข่าวไทย