กรุงเทพฯ 21 พ.ย. – กรุงไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โตไม่เกินร้อยละ 4.5 มั่นใจเชิงคุณภาพยังขยายตัวดี พร้อมประเมิน ธปท.จะขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เดือน ธ.ค.นี้
นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) รายงานเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ว่าเติบโตร้อยละ 3.3 และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตประมาณร้อยละ 4.2 นั้น Krungthai Macro Research เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตไม่เกินร้อยละ 4.5 และเป็นไปในทิศทางเดียวกับ สคช. หลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ต่ำกว่าช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากตัวเลขภาคการเกษตรติดลบ อันเป็นผลจากช่วงครึ่งปีแรกที่ขยายตัวค่อนข้างสูงตามสภาพอากาศเอื้ออำนวย และเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยเชิงคุณภาพยังดี โดยการลงทุนภาครัฐและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังขยายตัวดี และการส่งออกกลับมาขยายตัวได้ดีร้อยละ 8.7 ในเดือนตุลาคม ดังนั้น จีดีพีที่ออกมา จึงไม่ได้สะท้อนว่าเศรษฐกิจชะลอลงอย่างน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม จะเริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐกับจีนไตรมาส 4 ถึงครึ่งแรกของปี 2562 และอยากให้จับตาเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง และค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงด้วย ซึ่งจะทำให้จีนนำเข้าสินค้าลดลง โดยเดือนตุลาคมที่ผ่านมาไทยส่งออกไปจีนขยายตัวเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น ต่ำกว่าส่งออกไปตลาดเอเชียอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 18.7 และร้อยละ 21.8 คาดการณ์ว่าภาคการผลิตของจีนจะอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวจนถึงไตรมาส 1 ของปี 2562 เป็นอย่างน้อย เพราะมีความเสี่ยงที่สหรัฐจะปรับอัตราภาษีนำเข้าจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 สำหรับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีน หากไม่มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มจากที่ได้ประกาศไปแล้ว ภาคการผลิตของจีนจะมีสัญญาณกระเตื้องขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2562
นายพชรพจน์ ประเมินว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากตัวเลขจีดีพีที่ออกมาไม่ได้บ่งบอกว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว และคาดว่า ธปท.ยังคงให้น้ำหนักกับการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน และต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการทำนโยบายในอนาคต ซึ่งสะท้อนจากการลงคะแนนในการประชุม กนง.ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีคณะกรรมการเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มจาก 2 เสียง เป็น 3 เสียง.-สำนักข่าวไทย