ครม.เห็นชอบเพิ่ม 4 มาตรการ ช่วยผู้มีรายได้น้อย

ทำเนียบฯ 20 พ.ย. – ครม.เห็นชอบเพิ่ม 4 มาตรการ ช่วยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ค่าน้ำค่าไฟ-ค่าเช่าบ้าน-ค่าเดินทางผู้สูงอายุไปหาหมอ พร้อมแจกขวัญถุงรับสิ้นปีอีก 500 บาท 


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 มาตรการ คือ 1.ค่าน้ำ ครัวเรือนละ 100 บาทต่อเดือน และค่าไฟครัวเรือนละ 230 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561-กันยายน 2562 จำนวน 10 เดือน  2.สนับสนุนค่าใช้จ่ายช่วงปลายปีเดือนธันวาคม คนละ 500 บาท 3.ค่าเดินทางรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) คนละ 1,000 บาท และ 4.ค่าเช่าบ้าน คนละ 400 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561-กันยายน 2562 ซึ่งทั้ง 4 มาตรการนี้จะใช้งบประมาณ 38,730 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม

ขณะที่ที่ประชุมได้มีการรายงานความก้าวหน้า การดำเนินงานประชารัฐสวัสดิการการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและปัญหาอุปสรรคประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการกระบวนการอย่างต่อเนื่องทั้งการผลิตและการแจกจ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิ์ การวางเครื่องมือชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ 30,000-33,876 เครื่อง นอกจากนี้ ได้พัฒนา mobile Application “ถุงเงินประชารัฐ”  เพื่อรับชำระราคาสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเดือนกันยายนที่ผ่านมาอนุมัติร้านธงฟ้าประชารัฐแล้วกว่า 13,080 ร้านค้า และมียอดค่าใช้จ่าย mobile Application จำนวนทั้งสิ้น146.34 ล้านบาท การจ่ายเงินให้แก่หน่วยงานและร้านค้าที่รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรวม 42,509.85 ล้านบาท รวมทั้งการจ่ายเงินให้แก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2561 โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2561 โอนให้แก่ผู้มีสิทธิ์แล้ว 1,011.30 ล้านบาท 


ทั้งนี้ รัฐบาลได้เร่งเพิ่มจำนวนร้านค้าที่วางเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ในร้านธงฟ้า EDC และพัฒนา mobile Application ถุงเงินประชารัฐเพื่อเป็นเครื่องมือในการชำระเงินเพิ่มเติมอีกช่องทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ธนาคารกรุงไทยอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อรับรองการสแกนใบหน้าของผู้ถือบัตรแทนการกดรหัสบัตรซึ่งจะเริ่มใช้ได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งจะเร่งทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ประชาชนอย่างต่อเนื่อง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก