สศช.เผยจีดีพีไตรมาส 3 โตร้อยละ 3.3 เหตุส่งออก-ท่องเที่ยวลดลง

กรุงเทพฯ 19 พ.ย. – สภาพัฒน์เผยจีดีพีไตรมาส 3/61 โตแผ่วลงที่ร้อยละ 3.3 เหตุส่งออก-ท่องเที่ยวลดลง พร้อมปรับจีดีพีปีนี้โตลดลงเหลือร้อยละ 4.2


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2561 ขยายตัวร้อยละ 3.3 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวถึงร้อยละ 4.6 เนื่องจากการส่งออกชะลอลงเติบโตเพียงร้อยละ 2.6 ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ 12.3 ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าลดลง คือ แผงวงจรรวมและชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ยางพารา โดยตลาดสหรัฐอเมริกา จีน และออสเตรเลีย ปรับตัวลดลง 

นอกจากนี้ รายได้จากการท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ที่ 474,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.5 ชะลอตัวลงจากการขยายตัวร้อยละ 13.7 ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 27 และนักท่องเที่ยวยุโรป รัสเซีย มาเที่ยวไทยน้อยลง อย่างไรก็ตาม สศช.เชื่อว่า จีดีพีไตรมาส 4/2561 จะมีทิศทางดีขึ้นกว่าไตรมาส 3 โดยเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะฟื้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาท่องเที่ยวไทยเหมือนเดิม ด้วยการออกแผนกระตุ้นท่องเที่ยว 4 มาตรการ เช่น การฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว 21 ประเทศ 


ส่วนอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2561 สศช.ปรับลดคาดการณ์ลงจากโตร้อยละ 4.5 มาที่เติบโตร้อยละ 4.2 หรืออยู่ที่กรอบล่างของคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 4.2-4.7 เนื่องจากปรับลดการส่งออกทั้งปีเหลือขยายตัวร้อยละ 7.2 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10 ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 16.2 จากเดิมคาดไว้ที่ร้อยละ 15.4 ส่วนการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 4.7 การลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 3.6 

ส่วนเศรษฐกิจปี 2562 คาดจะเติบโตในกรอบร้อยละ 3.5-4.5 หรือค่ากลางที่ร้อยละ 4  โดยการส่งออกน่าจะขยายตัวร้อยละ 4.6 และนำเข้าจะเติบโตร้อยละ  6.5 โดยคาดว่าการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคจะขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.2 ส่วนการลงทุนโดยรวมเร่งตัวขึ้น ขยายตัวร้อยละ 5.1 โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐที่จะมีความคืบหน้าโครงการที่สำคัญ และการลงทุนภาคเอกชนที่จะมีการขยายอัตราการใช้กำลังผลิตสูงขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อลดผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจหลัก

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่กังวลมากที่สุด คือ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งหากมีความรุนแรงขึ้น จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพิงการส่งออกสูง และเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจโลกและปริมาณการค้าโลกต่ำกว่าที่ประเมินไว้ โดยคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 3.8 ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ 4 ในปี 2561.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง