กกต. 14 พ.ย.-เพื่อไทยบุก กกต.จี้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง เผยมีข่าวรัฐบาลสั่งชะลอ ไม่อยากเห็นเขตเลือกตั้งรูปแบบที่ 4 ที่ไมได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เวลา 14.00 น. วันนี้ (14 พ.ย.) นายธวัชชัย สุทธิบงกช รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสามารถ แก้วมีชัย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส. นำหนังสือของ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค มายื่นต่อ กกต. เรียกร้องขอให้ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้ง เนื่องจากขณะนี้เลยกำหนดระยะเวลาที่ กกต.เคยประกาศไว้ว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561
โดยนายสามารถ กล่าวว่า หลัง กกต.ออกระเบียบแบ่งเขตและสั่งให้ ผอ.กต.จังหวัดแบ่งเขตเลือกตั้ง พร้อมรับฟังความคิดเห็นและเสนอความเห็นมาให้ กกต.พิจารณาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 และ กกต.ระบุว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ถ้านับระยะเวลา ต้องแล้วเสร็จและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประมาณวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 แต่จนถึงขณะนี้กลับยังไม่มีการประกาศ ซึ่งความล่าช้าจะมีผลต่อการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง
“เพราะการที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้ จะต้องมีการจัดตั้งสาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และต้องหาสมาชิกที่มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น ๆ ให้ได้ 101 คน แล้วจึงตั้งตัวแทนประจำจังหวัดได้ แต่เวลานี้ไม่แน่ใจว่าเขตเลือกตั้งในจังหวัดอยู่ตรงไหน ทำให้ลำบาก ต้องการหาสมาชิก ซึ่งกระบวนการดังกล่าวต้องอาศัยเวลาในการดำเนินการ จึงจำเป็นต้องมาติดตามว่าเมื่อไร กกต.จะประกาศเขตเลือกตั้งเสียที นอกจากนี้การที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรับมนตรี ออกมาระบุว่า กกต.ประกาศเขตเลือกตั้งช้า ก็ไม่กระทบ เพราะมีระยะเวลาที่จะสามารถประกาศได้ไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ฟังแล้วก็ตกใจว่านายวิษณุ ไม่ได้ทราบเลยว่าการประกาศแบ่งเขตสำคัญต่อพรรคการเมือง เพราะพรรคการเมืองจะต้องเอาเขตไปทำงาน นอกจากนี้มีเพื่อนสมาชิกหลายจังหวัด ระบุว่า กกต.มีการแบ่งเขตผิดเพี้ยนไปจากที่ได้รับฟังความคิดเห็นมา และได้มีการมาร้องคัดค้านไว้ก่อนแล้ว ครั้งนี้จึงถือว่ามาติดตามเรื่องดังกล่าว” นายสามารถ กล่าว
ด้านนายชวลิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.ได้มาร้องคัดค้านเนื่องจากได้รับทราบว่าการเสนอแบ่งเขตของ กทม.มีรูปแบบที่ 4 หลุดออกมา แต่ก็มีหนังสือตอบกลับจากทางสำนักงานยืนยันว่า กกต.พิจารณาเลือกใน 3 รูปแบบ นอกเหนือจาก 3 รูปแบบ กกต.ไม่รับรู้ด้วย ทำให้สบายใจในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้มีข่าวลือว่าอาจจะมีการใช้มาตรา 44 มาแบ่งเขตในจังหวัดที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งพรรคก็ยินดี ไม่ว่าจะแบ่งแบบไหน ก็พร้อมน้องรับ แต่อยากให้มีการเร่งประกาศแบ่งเขตออกมา เพราะเกรงว่าจะทำงานไม่ทัน โดยเฉพาะการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการประกาศแบ่งเขตออกมาในรูปแบบที่ 4 จะเกิดปัญหาหรือไม่ นายสามารถ กล่าวว่า ถ้ารูปแบบนั้นไม่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ก็ไม่น่าจะชอบด้วยระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแบ่งเขต เพราะเขียนไว้ชัดเจนว่าต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและพรรคการเมือง ส่วนที่ล่าช้าในขณะนี้ เราได้ยินข่าวไม่ดี เช่น ผู้มีอำนาจของรัฐบาลมาบีบให้ชะลอการประกาศไปก่อน เราก็ไม่อยากไปเชื่อ เรายังหวังว่า กกต.ชุดนี้ จะทำงานด้วยความสุจริต มีความเที่ยงธรรม และเป็นองค์กรที่เป็นตัวของตัวเอง จึงอยากมาตามความคืบหน้า
ส่วนกรณีที่จะมีสมาชิกพรรคเพื่อไทย เตรียมเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สิงค์โปร์ นายสมารถ กล่าวว่า ยังไม่มีใครไปพบ ทุกคนมีงานที่ต้องทำในพรรค ก็ไม่มีเวลาแล้ว เว้นแต่มาใกล้ ๆ ก็ไปเยี่ยมคนที่นับถือ
“ไปทานข้าว ถามสารทุกข์สุกดิบกัน ก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมไทย ต้องทำความเข้าใจว่าที่กฎหมายพรรคการเมือง บอกว่าจะมาชี้นำ ครอบงำไม่ได้นั้น จริง ๆ เราก็ไปกินข้าว ดื่มไวน์ ไม่ได้มานั่งประชุมสั่งการอะไร เฮฮาปาร์ตี้แล้วก็กลับ ผมก็เคยไป กินข้าว กินไวน์กับท่าน ก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่ได้สั่งการอะไร” นายสามารถ กล่าว.-สำนักข่าวไทย