สธ.14 พ.ย.-ป.ป.ส.ร่วม อย.จัดอภิปรายผ่อนปรนกัญชา ประธานบอร์ดอภ. ยันการจดสิทธิบัตรสารกสกัดจากกัญชาของ11 บริษัท ผ่านกรมทรัพย์สินทางปัญญา ไม่สามารถทำได้ เพราะอธิบดีกรมทรัพย์สินเคยกล่าวไว้เมื่อ15 มิ.ย.61 เร่งอาจพิจารณาฟ้องกรมทรัพย์สินฯ ขณะที่เลขาป.ป.ส.แจงยังไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปปลูกได้เพราะยังเป็นยาเสพติด แม้ครม.อนุมัติ ทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการยาเสพติด
ในการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น “ผ่อนปรนกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.โสภณ เมฆธน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า กรอบการหารือและระดมความคิดเห็นนี้ เน้นเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์ และการคลายล็อกของกัญชา โดยขอย้ำว่ากัญชาไม่ใช่ยาวิเศษ แต่จะนำสารสำคัญในกัญชา ทั้ง THC และ CBD มาใช้ประโยชน์ และยังไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้เพื่อสันทนาการ การปลดล็อกไม่ได้ให้อิสระในการปลูก ฉะนั้น ประชาชน หรือคนทั่วไป ไม่สามารถปลูกได้ กัญชายังคงเป็นยาเสพติดอยู่
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การปลดล็อกกัญชาจะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอนแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งทาง ครม.ได้เห็นชอบให้หลักการให้นำกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 5 มาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ส่วนเรื่องของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ 11 บริษัท จดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชานั้น ขณะนี้ ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาและศึกษาข้อกฎหมายอยู่ เพราะสารสกัดจากพืชไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ เรื่องนี้เคยสอบถามอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.61 ก็ระบุเองว่าไม่สามารถจดได้ ใจจริงไม่ได้อยากฟ้องหน่วยงานภาครัฐด้วยกัน
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า วานนี้ (13พ.ย.) ครม.ได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด ของ สนช. แนวทางการปลดล็อกกัญชาก็จะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ แต่กัญชายังคงอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 5 เหมือนเดิม แต่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ผู้ดำเนินการต้องเป็นหน่วยงานรัฐ และมีกำหนดระยะเวลาในการใช้ 5 ปี แต่ต้องมีกฎหมายลูกรองรับ ซึ่งจะเร่งดำเนินการต่อไป
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การควบคุมกัญชาใช้ใน ทางการแพทย์ ตามกรอบวางไว้ว่าผู้ดำเนินการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ครอบคลุมตั้งแต่การปลูก สายพันธุ์พื้นที่เพาะปลูกเพื่อให้ได้กัญชาคุณภาพ นำสารสำคัญใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพราะกัญชา เป็นพืชที่ดูดซึมธาตุเหล็ก ดังนั้นต้องควบคุมการปลูกให้ดี และผู้ขออนุญาตปลูก ต้องเป็นนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ มีโรงเรือนปิด ปลอดภัย และมีการกำหนดปริมาณในการปลูก เพื่อให้พอกับความต้องการ แต่บุคคลทั่วไป ไม่สามารถปลูกได้ เพราะกัญชายังถือเป็นยาเสพติด การขออนุมัติปลูกยังต้องผ่านคณะกรรมการยาเสพติดด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้ขออนุญาตและใช้ประโยชน์จากกัญชาของกลางยาเสพติด มีมหาวิทยาลัยรังสิต และองค์การเภสัชกรรม .-สำนักข่าวไทย