กทม.12 พ.ย.-รพ.พระราม 2 แถลงยืนยันไม่ได้ปฏิเสธการรักษาคนไข้ถูกสามีสาดน้ำกรด ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วแต่เป็นความประสงค์ที่คนไข้ขอไปรักษาต่อที่ รพ.ตามสิทธิประกันสังคม พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัว
พญ.วัลลภา ไชยมโนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม 2 พร้อมด้วยนพ.พีระ คณานุวัฒน์ ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลโรงพยาบาลพระราม2 ร่วมแถลงข่าวยืนยันว่า ไม่ได้ปฏิเสธการรักษาคนไข้หญิงวัย38ปี ที่ถูกสามีสาดน้ำกรดใส่ จากสาเหตุหึงหวง จนอาการสาหัส
นพ.พีระ กล่าวว่า เมื่อวันที่9 พฤศจิกายน เวลาตีห้าเศษคนไข้หญิงรายดังกล่าวมาขอรับการรักษาที่โรงพยาบาลบริเวณห้องฉุกเฉินและได้ร้องบอกเจ้าหน้าที่พยาบาลห้องฉุกเฉินว่าช่วยด้วย ปวดแสบปวดร้อน พยาบาลห้องฉุกเฉินจึงได้รีบเข้าปฐมพยาบาลคนไข้ พร้อมสอบถามอาการ ทราบว่าคนไข้ถูกสามีสาดน้ำร้อนเข้าหน้าในขณะนอน พยาบาลจึงได้ทำการปฐมพยาบาลพร้อมวัดสัญญาณชีพ ผลความดันปกติ การหายใจปกติ ออกซิเจนในเลือดปกติ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์รายงานแพทย์ที่ปรึกษาทางศัลยกรรม คือ ตนเอง นพ.พีระ เพื่อแจ้งอาการ โดยตนได้สั่งให้ทำแผลและแอดมิดรับไว้เป็นผู้ป่วยใน เพื่อให้ยาระงับปวดและสังเกตอาการ แต่คนไข้ได้แจ้งปฏิเสธแอดมิดและบอกว่าต้องการไปรักษาตามสิทธิประกันสังคมของตน ซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลบางมด และประสงค์เดินทางเอง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉิน ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดตามมาตรฐานโรงพยาบาลในการดูแลคนไข้ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคนไข้ในการสูญเสียครั้งนี้
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า โรงพยาบาลให้คนไข้นั่งรถแทกซี่ โดยไม่ใช้รถแอมบูแลนซ์ หรือรถพยาบาลรับส่งผู้ป่วยนั้น ยืนยันว่า โรงพยาบาลมีรถแอมบูแลนซ์จอดอยู่ 2 คัน ตามกฏการใช้รถต้องมีการประสานไปยังโรงพยาบาลปลายทางก่อน ทางโรงพยาบาลพระราม 2 จึงได้โทรศัพท์แจ้งโรงพยาบาลบางมด แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ตรวจการณ์ของโรงพยาบาลบางมดได้ในขณะนั้น กินเวลาร่วม10 กว่านาที แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาดำเนินการ และคนไข้ปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา คนไข้จึงไม่ขอใช้รถของโรงพยาบาล ขอเดินทางไปยังโรงพยาบาลบางมดเอง และที่มีข่าวว่าโรงพยาบาลยัดเยียดเงิน 40 บาทให้ขึ้นแท็กซี่ไม่เป็นความจริง แต่เป็นความเห็นใจของเจ้าหน้าเปลเวรที่เห็นว่า ลูกของคนไข้มีเงินติดตัวมาเพียง50 บาท เกรงว่าจะไม่พอค่าแท็กซี่ จึงได้ให้เพิ่มเติม ย้ำว่าโรงพยาบาลพระราม 2ไม่ได้ผลักให้คนไข้ไปรักษาที่อื่นและไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธการรักษา ขณะอยู่โรงพยาบาลพระราม2 คนไข้ยังมีสติ พูดคุยได้และแพทย์ยังประเมินแผลด้านนอกไม่อยู่ในระยะอันตราย
อย่างไรก็ตามวันนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงสาธารณสุข 3หน่วยงาน ประกอบด้วย 1.กองประกอบโรคศิลป 2.ประกันสังคมเขตพื้นที่ 3.สำนักงานกองกฏหมายกองบริการทางการแพทย์ ได้เข้ามาตรวจสอบเบื้องต้นที่โรงพยาบาลพระราม 2 แล้ว พร้อมข้อสำเนาเวชระเบียน สำเนาตารางเวรเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยประจำวันเกิดเหตุ และ สำเนาวิดีโอ กล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนเรื่องการฟ้องร้องกลับนายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่กล่าวหาจนทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียงนั้น จะไม่ดำเนินการใดๆและไม่ฟ้องกลับ
ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระราม2 กล่าวว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ .-สำนักข่าวไทย