กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- ประธาน ป.ป.ช. เผย สอบคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจี ล็อต 2 แจงไม่ใช่การรื้อคดี แต่พบผู้กระทำผิด และพยานหลักฐานเพิ่ม เป็นสัญญาคนละฉบับ ยืนยัน ไม่เกี่ยวกับการเมือง
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อต 2 ว่า ปัจจุบันมีอนุกรรมการ 2 ชุดร่วมกันไต่สวนอยู่ โดยปรากฏมีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม จึงมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้มีมติไต่สวนเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และขณะนี้คืบหน้าไปมากแล้ว
ส่วนที่ขณะนี้มีบางฝ่ายออกมาระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหา คือ นายทักษิณ ชินวัตร และเครือญาติ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า การไต่สวนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และบุคคลที่ไต่สวนเพิ่ม ว่าไปเกี่ยวโยงกับผู้ที่เกี่ยวข้องตรงนั้นอย่างไร ในกระบวนการกระทำความผิดที่ถูกกกล่าวหา ป.ป.ช.จึงต้องสั่งไต่สวนเพิ่มเติม เพื่อให้เขาได้มีโอกาสชี้แจง ถือเป็นปกติในการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นทาง ป. วิ อาญา หรือการไต่สวนของ ป.ป.ช.
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คดีในส่วนนี้ เป็นส่วนที่ 2 เพราะคดีจำนำข้าวมีเรื่องที่เกี่ยวกับการขายข้าวกว่า 10 สัญญา มีการดำเนินคดีไปแล้วกลุ่มหนึ่ง และกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ 2 ที่ยังไม่มีการดำเนินคดี เป็นส่วนของตัวสัญญาของการขายข้าว ยืนยันว่าไม่ใช่การรื้อคดีเดิม แต่ ป.ป.ช.ทำตามข้อมูล พยานหลักฐาน และตามที่มีการกล่าวหา เป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มแรก เพราะสัญญาการขายข้าวเป็นคนละสัญญากัน และเป็นส่วนสัญญาที่เหลือเยอะ
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีความพยายามเชื่อมโยงว่า ทำไมจึงหยิบคดีขายข้าวจีทูจี ขึ้นมาในช่วงที่มีผลได้ผลเสียทางการเมือง พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คงห้ามไม่ได้ หากจะมีการคิดแบบนั้น แต่ยืนยันว่า ป.ป.ช.ทำตามหน้าที่และหลักฐาน ถ้าเรื่องช้าไป ก็ถูกกล่าวหาว่าดึงเรื่อง ก็โดนว่าอยู่ดี ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องทำตามพยานหลักฐาน และระยะเวลาที่ถูกเร่งรัดมากขึ้น ต้องการจะเร่งทุกวัน ทุกเรื่อง แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากการไต่สวนของ ป.ป.ช.เป็นระบบไต่สวน ที่ให้โอกาสคนนำพยานหลักฐานมาชี้แจงได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ดูว่าทำงานช้า ..- สำนักข่าวไทย