กรุงเทพฯ 11 พ.ย. – รมว.เกษตรฯ สั่งด่วนช่วยประชาชนประสบอุทกภัย สำรวจทันทีหลังน้ำลด พร้อมประสานจังหวัดชดเชยผลผลิตเกษตรเสียหาย
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีทุกกรม หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรทั้งระดับจังหวัดและอำเภอ เร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี โดยมอบหมายเกษตรจังหวัดในฐานะเลขานุการอนุกรรมการพัฒนาเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อ.พ.ก.) รวบรวมผลกระทบเพื่อรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดทราบทุกระยะ พร้อมทั้งเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุม อ.พ.ก. เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากน้ำท่วมที่มีต่อเกษตรกรในพื้นที่ด้วย
นายกฤษฎา กล่าวว่า การทำงานของทุกหน่วยงานต้องประสานกัน ทั้งเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์ ประมง ชลประทาน พัฒนาที่ดิน และวิชาการเกษตร เพื่อให้ไม่ให้ซ้ำซ้อนและเกิดความรวดเร็ว กำหนดเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยเข้าไปรับผิดชอบแก้ไขปัญหาประจำพื้นที่นั้น ๆ ทั้งนี้ ให้ประสานงานกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สำหรับเจ้าหน้าที่ด้านการจัดซื้อ-จัดจ้างวัสดุ-คุรุภัณฑ์หรือการซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ด้านการเกษตรและชลประทานให้ถือปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อย่างเคร่งครัด หากพบว่าข้าราชการหรือหน่วยงานใดแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากความเดือดร้อนของประชาชนจะลงโทษทางวินัยโดยเฉียบขาด
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ให้หน่วยงานต่าง ๆ เตรียมการชดเชยช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ได้แก่ ทบทวนทะเบียนเกษตรกร เสนอประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ที่ผลผลิตเสียหาย ทะเบียนเกษตรกร การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีปัญหาอุปสรรคที่เกินกำลังของพื้นที่ให้แจ้งขอรับการสนับสนุนมายังส่วนกลางทันที ซึ่งอธิบดีหรือผู้บริหารเทียบเท่ากรมทุกกรมเตรียมจัดทำบัญชีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปกติ เพื่อมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการพื้นที่น้ำท่วมและพร้อมสนับสนุนการเผชิญเหตุทันการณ์ เมื่อได้รับการร้องขอจากจังหวัดพื้นที่น้ำท่วม รวมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์จำเป็น เช่น นักวิชาการ นายสัตวแพทย์ เครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำ ยานพาหนะ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานศูนย์อำนวยการและบัญชาการสถานการณ์ โดยมีสำนักแผนงานและโครงการพิเศษเป็นฝ่ายเลขานุการติดตามสถานการณ์ประเมินความเสี่ยงจากปริมาณฝนและน้ำท่าที่จะเพิ่มขึ้น รวบรวมข้อมูลความเสียหาย และความต้องการช่วยเหลือ ประสานความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเลขาธิการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสรุปรายงานสถานการณ์ภาพรวมเป็นรายวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นายสำราญ สาราบรรณ์ รักษาราชการอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สั่งการให้เกษตรจังหวัดที่มีฝนตกชุกในภาคใต้เปิดศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตร เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะเร่งให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่เกษตรกรทันทีที่น้ำลด ทั้งนี้ ตามระเบียบกระทรวงการคลังเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติเจ้าหน้าที่จะสำรวจความเสียหาย หากพื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างสิ้นเชิงจะได้รับเงินช่วยเหลือตามระเบียบ โดยข้าวได้รับ 1,113 บาทต่อไร่ พืชไร่ 1,148 บาทต่อไร่ พืชสวน และอื่น ๆ 1,690 บาทต่อไร่ ซึ่งไม่เกิน 15 ไร่ต่อครัวเรือน นอกจากนี้ ยังกำชับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้าไปช่วยเหลือเพื่อป้องกันและดูแลพืชผลที่อาจเสียหายเมื่อฝนตกชุก น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะจังหวัดชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งต้องเร่งช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้นทันที.-สำนักข่าวไทย