กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – กรมชลประทานเร่งระบายน้ำเมืองชุมพร พร้อมเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันจะเข้าสู่ภาวะปกติ 1 – 2 วันนี้
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงสถานการณ์น้ำหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ชุมพร ว่า เนื่องจากหย่อนความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมพื้นที่ภาคใต้ ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้กำลังแรง นั้น ปัจจุบัน (9 พ.ย. 61) ระดับน้ำในคลองชุมพร บริเวณบ้านท่าลาย สถานี X.201A อ.เมือง จ.ชุมพร มีน้ำล้นตลิ่งเมื่อเวลาประมาณ 03.00 – 05.00 น. และต่อมาเวลา 10.00 น. ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่ง 2.30 เมตร ส่วนบริเวณสถานี X.53A อ.เมือง จ.ชุมพร ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.68 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มีน้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 4 กม.0+300 สูงประมาณ 0.30 เมตร รถยนต์ยังสามารถสัญจรได้ และน้ำท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 4 กม.26+500 ขาขึ้นน้ำสูงประมาณ 0.30 – 0.40 น. ขาล่องน้ำท่วมเล็กน้อย รถยนต์สามารถสัญจรได้
สำหรับการบริหารจัดการน้ำ โครงการชลประทานชุมพรควบคุมปริมาณน้ำที่ประตูระบายน้ำ (ปตร.) ท่าแซะ โดยการชะลอน้ำไม่ให้ระบายลงมาสมทบกับปริมาณน้ำที่คลองรับร่อมากเกินไป และทยอยระบายน้ำผ่าน ปตร.หัววัง ปตร.พนักตัก ปตร.สามแก้ว และ ปตร.ท่าตะเภา ไหลลงสู่ทะเล เพื่อควบคุมไม่ให้น้ำล้นคลองท่าตะเภา ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เมืองชุมพร หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมบริเวณต้นน้ำ คาดการณ์ว่าภายใน 1 – 2 วัน สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 16×12 นิ้ว บริเวณหมู่ที่ 1 ต.นาทุ่ง จำนวน 2 เครื่อง และหมู่ที่ 1 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 2 เครื่องและสำรองเครื่องสูบน้ำขนาด 16×12 นิ้ว 17 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว 3 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขนาด 4 นิ้ว 1 เครื่องและเครื่องผลักดันน้ำ 12 เครื่อง เตรียมให้การช่วยเหลือพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทั้งนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังปริมาณในคลองท่าแซะ 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำเริ่มล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
กรมชลประทานมอบหมายให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ลงพื้นที่และประสานการทำงานร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพร้อมส่งเครื่องจักรเครื่องมือและเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ที่เดือดร้อนตลอดเวลา . – สำนักข่าวไทย