กทม. 9 พ.ย.-แฟนบอลทะยอยเข้าสู่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพื่อมาเชียร์ทัพช้างศึกประเดิมนัดแรกของกลุ่มบี ในศึก ซูซูกิ คัพ พบกับ ติมอร์ เลสเต
นักเตะทีมชาติไทยก่อนที่จะเข้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นทำเนียมของแข้งไทยที่ได้มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนแข่งขัน นำโดยพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทสไทย และมิโลวานราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย พร้อมนักเตะนำโดยเฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กัปตันทีม ซึ่งมีแฟนบอลไปรอถ่ายรูป และขอจับมือเหล่าบรรดานักเตะ พร้อมตะโกนเสียงเชียร์ให้กำลังใจนักเตะ
สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” ทีมชาติไทย อันดับ 121 ของโลก จะลงสนามพบ ติมอร์-เลสเต อันดับ 191 ของโลก ที่ราชมังคลากีฬาสถาน อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย กล่าวเน้นย้ำนักเตะห้ามประมาทคู่แข่ง และมั่นใจเก็บ 3 คะแนน เพื่อการเริ่มต้นที่ดี แม้ว่าจะไม่มี 4 นักเตะตัวหลักอย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธุ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน และกวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่ไปค้าแข้งในต่างแดน
โดยจะใช้สำหรับผู้เล่น 11 คนแรก ลงสนาม ในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรหม ผู้รักษาประตู, แผงหลัง มานูเอล ทอม เบียร์ จับคู่เซ็นเตอร์กับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กัปตันทีม ,แบ็คซ้าย กรกช วิริยอุดมศิริ, แบ็คขวา ฟิลิป โรลเลอร์, แดนกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ส่วน 3 ตัวรุก สรรวัชญ์ เดชมิตร, นูรูล ศรียานเก็ม และ มงคล ทศไกร โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า
ด้านทีมชาติติมอร์-เลสเต ภายใต้การคุมทีมของ โนริโอะ สึกิทาเตะ กุน ซือชาวญี่ปุ่น ซึ่งพาทีมผ่านเข้ามาเล่นใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งผู้เล่นชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นนักเตะดาวรุ่งอายุ 18 ปี 5 คน ไม่เกิน 21 ปี 12 คน รวม อายุไม่เกิน 21 ปีรวมทั้งสิ้น 17 คน โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ก็ลงฝึกซ้อมที่ราชมังคลากีฬาสถานเช่นกัน นำโดย อเดริโต ราฮุล เฟร์นันเดซ ผู้รักษาประตู และ เฮนริเก้ ครูซ ศูนย์หน้าของทีมบาวิสต้า ลงเล่นทีมชาติ 19 นัด ยิงไป 3 ประตู โดยในรอบคัดเลือกกับบรูไน ยิงไป 2 ประตู สำหรับติมอร์ ก่อนหน้านี้โดนฟีฟ่าแบนไปช่วงหนึ่ง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเมืองแซกแซง และเรื่องนักเตะโอนสัญชาติ
สำหรับเกมนี้ฟีฟ่า ได้ทำหนังสือมาถึงสมาคมฟุตบอลว่าเกมนี้เป็นเกมระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เอ แมตซ์ ซึ่งจะมีผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย สำหรับทีมชาติไทยในฐานะแชมป์เก่า จะสวมชุดสีน้ำเงิน ลงเตะในค่ำนี้ในเวลา 19.00 น. โดยก่อนเกมจะมีการยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแด่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิค็อปเตอร์ตกด้วย โดยสถิติทีมชาติไทย กับ ติมอร์ เลสเต ไม่เคยพบกันมาก่อนในเกมอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ทำเนียบแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ทีมชาติไทย เป็นแชมป์มากที่สุด 5 สมัย รองลงมาเป็นสิงคโปร์ 4 สมัย และเวียดนาม กับ มาเลเซีย แชมป์ 1 สมัย โดยในปีที่ทีมชาติไทยคว้าแชมป์มาครองได้ในปี 1996, 2000,2002 หลังจากนั้นห่างหายไป 12 ปี ก่อนกลับมาได้แชมป์อีกครั้งในปี 2014 และมาป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้งใน 2016 ซึ่ง 2 ครั้งที่ผ่านมาเป็น โค้ชซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นเฮดโค้ช ซึ่งซิโก้ได้ฝากกำลังใจมาให้นักเตะชุดนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย