อุตรดิตถ์ 8 พ.ย. – วันนี้ 2 ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงสั่งทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง ถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาล ขณะที่ตำรวจเร่งสางคดีและตรวจสอบเส้นทางของข้าวกล่อง
ตำรวจ สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ควบคุมตัวนางธนิตา จันทร์อิ่ม และ น.ส.กัญจ์หทัย สุขใจ 2 สาวที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงสั่งทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง ไปขออำนาจฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ หลังเข้ามอบตัวสู้คดี เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) โดยยืนยันจะให้การในชั้นศาล และปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เผย 2 ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับว่ามีการทำสัญญาสั่งซื้อข้าวกล่องจริง แต่ฝั่งผู้รับจ้างทำผิดสัญญา ส่งมอบข้าวกล่องไม่ทันตามกำหนด ซึ่งตำรวจเชื่อมั่นในพยานหลักฐานว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้
คดีนี้เบื้องต้นมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 1 ราย ซึ่งถูกหลอกให้ทำสัญญาสัมปทานทำข้าวกล่องและน้ำดื่ม รวมระยะเวลา 5 ปี และลงทุนซื้ออุปกรณ์ทำครัวกับผู้ต้องหา แต่ถูกยกเลิกและเสียค่าปรับ สูญเงินไปกว่า 800,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกรายที่ตกเป็นเหยื่อ พร้อมให้การเป็นพยาน หลังถูกฉ้อโกงในลักษณะเดียวกัน สูญเงินกว่า 3 ล้านบาท จนพ่อล้มป่วยและเสียชีวิตเมื่อปีก่อน แต่ไม่สามารถเอาผิด เนื่องจากคดีหมดอายุความแล้ว
ส่วนเส้นทางของข้าวกล่องจำนวนมาก ตำรวจชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบ หลังมีกระแสข่าวว่า ข้าวกล่องอาจถูกส่งไปยังบ่อนการพนันหลายแห่งในพื้นที่ และน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกง นอกเหนือจาก 2 ผู้ต้องหา
ส่วนที่บ้านของนางธนิสร กุยแก้ว ผู้เสียหายชาว อ.เมืองอุตรดิตถ์ ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดี วันนี้ครอบครัวทำพิธีขอขมาพระแม่โพสพตามความเชื่อ ก่อนนำข้าวไปทำลายทิ้ง หลังข้าวกล่องที่ทำไว้เมื่อ 4 วันก่อน เริ่มบูดเน่า ส่วนเงินกู้ยืมหลายแสนบาทที่นำมาลงทุนทำข้าวกล่อง จนต้องนำรถยนต์เข้าไฟแนนซ์ ยังไม่สามารถปลดหนี้
ตำรวจยังฝากถึงผู้เสียหายรายอื่นที่อาจเคยตกเป็นเหยื่อ 2 ผู้ต้องหา ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งหากมีผู้เสียหายเกินกว่า 10 ราย จากคดีฉ้อโกงธรรมดาจะกลายเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน มีโทษสูงและไม่สามารถยอมความ. – สำนักข่าวไทย