มหาวิทยาลัยสงฆ์ พร้อมยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.

สำนักข่าวไทย 7 พ.ย.-มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  รอฟังความชัดเจน  ป.ป.ช.ให้มหาวิทยาลัยสงฆ์แจงบัญชีทรัพย์สิน ยินดีปฏิบัติตาม ที่ผ่านมาตำแหน่งรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์ เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.อยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหา


พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กําหนดให้ นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภา และอธิการบดี ของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ รวมถึงมหาวิทยาลัยสงฆ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ว่า เมื่อเป็นข้อบังคับต้องยอมรับและปฏิบัติตาม  แต่รอบที่แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2แห่ง คือมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.)และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.)  ป.ป.ช.ได้กำหนดให้อธิบดีมหาวิทยาลัยสงฆ์แจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สินต่อป.ป.ช.ซึ่งอธิการบดีมจร.สมัยนั้น คือพระพรหมบัณฑิต ได้ทำตามข้อบังคับแจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สินตามที่ป.ป.ช.กำหนด แต่ได้รับการยกเว้น  


ขณะที่ในส่วนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสังฆ์ ป.ป.ช.ไม่ได้รับข้อยกเว้น  อาตมาในฐานะรองอธิการบดี มจร.ได้เคยชี้แจงไปแล้ว  3  รอบ ทั้งตอนเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งรองอธิการบดี แต่ที่แตกต่างการออกประกาศของ ป.ป.ช.ครั้งนี้ ทั้งนายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภา และอธิการบดีของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่งไม่ได้รับการยกเว้น ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน   


ส่วนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนั้น คณะกรรมสภามหาวิทยาลัยมาจาก 3 ส่วนคือ1.จากผู้บริหารของมหาวิทยาลัย 2. กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง เช่น ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นต้น 3.กรรมการสภามหาวิทยาลัยจากผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมีทั้งพระมหาเถรและคฤหัสถ์ผู้ทรงความรู้  

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ยังไม่มีการพูดคุยใดๆ เนื่องจากรอความชัดเจนจากทั้งกฎหมายและการตกผลึก หรือแนวปฎิบัติจากมหาวิทยาลัยต่างๆด้วย ซึ่งก็เห็นว่าอะไรที่จะเป็นประโยชน์ เป็นช่องทางเพื่อเปิดประตูให้ผู้มีความรู้ความสามารถจากบุคคลภายนอกเข้ามาช่วยบริหารมหาวิทยาลัยและช่วยการศึกษาของชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้  กฎหมายและระเบียบปฎิบัติอื่นๆก็ควรจะเอื้ออำนวยให้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย