กกร.เชื่อจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4.4-4.8

กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – กกร.คงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 4.4-4.8 ส่งออกโตร้อยละ  8-10 เรียกร้องรัฐจัดประชุม กรอ.อย่างน้อยปีละครั้ง หวังต้นปีหน้ามีการประชุม 



นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้คงประมาณการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและการเติบโตของมูลค่าการส่งออกปี 2561 โดยจีดีพี คงการประเมินไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.4-4.8 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 8.0-10.0 ซึ่งเป็นการประเมินเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้ภาพเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2561 จะเติบโตชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก จากหลายเครื่องชี้ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว การเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมทั้งผลผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว การหดตัวแรงของการส่งออกเดือนกันยายน แต่เหล่านี้เป็นประเด็นระยะสั้น ประกอบกับภาครัฐน่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะมีแรงหนุนดีขึ้นได้ ส่วนเงินเฟ้อปีนี้ ประเมินว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.9-1.5  


สำหรับการส่งออกปี 2562 คาดว่าจะโตร้อยละ 5-6 การส่งออกจะเติบโตในอัตราสูงใกล้เคียงกับปี 2561 อาจเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะมีแนวโน้มเผชิญโจทย์ที่ท้าทายมากขึ้น จากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเก็บภาษีนำเข้ารอบ 3 ซึ่งจะมีผลต่ออุตสาหกรรมไทยจากการที่สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าภายใต้กรอบ USMCA หรือ United States-Mexico-Canada Agreement หรือ NAFTA ใหม่ และไทยยังถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือ GSP จากสหรัฐ 11 รายการสินค้าส่งออก ตลอดจนผลกระทบทางอ้อมจากการขยายตัวที่ชะลอลงของการค้าและเศรษฐกิจหลักในโลก 

ด้านมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ของสินค้า 11 รายการ ในปี 2560 มีมูลค่า 46 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 1.11 ของมูลค่าสินค้าไทยใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐรวมประมาณ 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 หรือร้อยละ 16.0  ของการส่งออกของไทยไปสหรัฐ ขณะที่ตลาดสหรัฐคิดเป็นร้อยละ 11 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย อย่างไรก็ตาม  กกร.เห็นว่าการถูกตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐครั้งนี้น่าจะไม่กระทบการส่งออกของไทย ประกอบกับสินค้าไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน คาดว่าจะส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญที่เป็นคู่แข่งของไทยในตลาดสหรัฐที่ถูกตัดสิทธิด้วย ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ไทยจะสามารถส่งออกไปสหรัฐทดแทนสินค้าของคู่แข่งได้

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน จากกระทรวงการคลังมีการปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออก โดยภาพรวมอยู่ที่ 48.4 จากเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 49.8 ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตร เช่น ยาง ปาล์ม ที่ยังคงทรงตัวระดับต่ำ 


ส่วนปัจจัยด้านบวก ได้แก่ การคงดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ร้อยละ 1.50  ประกอบกับภาคการส่งออกที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมีการเติบโตมากขึ้น  

กรณีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลงนั้น กกร.มองว่า เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและพิษสงครามการค้าจีนกับสหรัฐ ทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง กำลังซื้อลดลง โดยเดือนกันยายน มีนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวไทย 648,000 คน ลดลงร้อยละ 14.89  จากเดือนสิงหาคม ที่ยอดรวม 867,000 คน ลดลงจากเดือนกรกฎาคมคิดเป็นร้อยละ 11.77 

สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 28.54 ล้านคน เติบโตร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะติดลบร้อยละ 8.8  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังเติบโตถึงร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

นายกลินท์ กล่าวว่า  หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (6 พ.ย.) ประกาศมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ให้กับ 21 ประเทศช่วงนี้จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงการเดินทางไปจีนของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนจีน เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวประเทศไทย

นายกลินท์ กล่าวเพิมเติมว่า ตามที่ภาครัฐจัดทำโครงการ Regulatory Guillotine เพื่อปรับปรุงกฎหมายที่สำคัญนั้น กกร.ขอเสนอให้ภาครัฐจัดลำดับความสำคัญในการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับความต้องการด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เช่น เน้นเรื่องเพิ่มปริมาณการค้าชายแดน 

นายกลินท์ กล่าวว่า กกร.ยังต้องการให้รัฐบาลจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) อย่างน้อยปีละครั้ง โดยหวังว่าจะมีการจัดประชุม กรอ.ต้นปีหน้า เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนี้ไม่เคยจัดประชุม กรอ.ชุดใหญ่เลย สำหรับสิ่งที่ต้องการจากภาครัฐ ได้แก่ ยกเลิกการกรอกเอกสาร ตม.6 ของต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งภาครัฐยังติดขัดงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการ  ส่วนมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ภาคเอกชนต้องการให้ปรับนโยบายส่งเสริมการลงทุน โดยเน้นให้ความสำคัญภาคบริการมากขึ้น จากปัจจุบันเน้นภาคการผลิตเป็นหลัก เพราะ กกร.มองว่าในอนาคตภาคบริการของประเทศจะเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ  55 ของจีดีพีประเทศ ด้านโครงการประชารัฐขณะนี้ยังติดขัดแม้จะมีงบประมาณ แต่ยังคงติดข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลอีก เป็นต้น . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย