กกร.เชื่อจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 4.4-4.8

กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – กกร.คงเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 4.4-4.8 ส่งออกโตร้อยละ  8-10 เรียกร้องรัฐจัดประชุม กรอ.อย่างน้อยปีละครั้ง หวังต้นปีหน้ามีการประชุม 



นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้คงประมาณการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและการเติบโตของมูลค่าการส่งออกปี 2561 โดยจีดีพี คงการประเมินไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.4-4.8 การส่งออกขยายตัวร้อยละ 8.0-10.0 ซึ่งเป็นการประเมินเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้ภาพเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ปี 2561 จะเติบโตชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรก จากหลายเครื่องชี้ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การท่องเที่ยว การเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมทั้งผลผลิตภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว การหดตัวแรงของการส่งออกเดือนกันยายน แต่เหล่านี้เป็นประเด็นระยะสั้น ประกอบกับภาครัฐน่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะมีแรงหนุนดีขึ้นได้ ส่วนเงินเฟ้อปีนี้ ประเมินว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.9-1.5  


สำหรับการส่งออกปี 2562 คาดว่าจะโตร้อยละ 5-6 การส่งออกจะเติบโตในอัตราสูงใกล้เคียงกับปี 2561 อาจเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะมีแนวโน้มเผชิญโจทย์ที่ท้าทายมากขึ้น จากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเก็บภาษีนำเข้ารอบ 3 ซึ่งจะมีผลต่ออุตสาหกรรมไทยจากการที่สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าภายใต้กรอบ USMCA หรือ United States-Mexico-Canada Agreement หรือ NAFTA ใหม่ และไทยยังถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรหรือ GSP จากสหรัฐ 11 รายการสินค้าส่งออก ตลอดจนผลกระทบทางอ้อมจากการขยายตัวที่ชะลอลงของการค้าและเศรษฐกิจหลักในโลก 

ด้านมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ของสินค้า 11 รายการ ในปี 2560 มีมูลค่า 46 ล้านเดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ 1.11 ของมูลค่าสินค้าไทยใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปสหรัฐรวมประมาณ 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2560 หรือร้อยละ 16.0  ของการส่งออกของไทยไปสหรัฐ ขณะที่ตลาดสหรัฐคิดเป็นร้อยละ 11 ของการส่งออกทั้งหมดของไทย อย่างไรก็ตาม  กกร.เห็นว่าการถูกตัดสิทธิ GSP ของสหรัฐครั้งนี้น่าจะไม่กระทบการส่งออกของไทย ประกอบกับสินค้าไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน คาดว่าจะส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีประเทศผู้ส่งออกรายสำคัญที่เป็นคู่แข่งของไทยในตลาดสหรัฐที่ถูกตัดสิทธิด้วย ซึ่งมีสินค้าสำคัญที่ไทยจะสามารถส่งออกไปสหรัฐทดแทนสินค้าของคู่แข่งได้

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน จากกระทรวงการคลังมีการปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออก โดยภาพรวมอยู่ที่ 48.4 จากเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 49.8 ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน อีกทั้งยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ รวมถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตร เช่น ยาง ปาล์ม ที่ยังคงทรงตัวระดับต่ำ 


ส่วนปัจจัยด้านบวก ได้แก่ การคงดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ร้อยละ 1.50  ประกอบกับภาคการส่งออกที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมีการเติบโตมากขึ้น  

กรณีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลงนั้น กกร.มองว่า เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและพิษสงครามการค้าจีนกับสหรัฐ ทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง กำลังซื้อลดลง โดยเดือนกันยายน มีนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวไทย 648,000 คน ลดลงร้อยละ 14.89  จากเดือนสิงหาคม ที่ยอดรวม 867,000 คน ลดลงจากเดือนกรกฎาคมคิดเป็นร้อยละ 11.77 

สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย 28.54 ล้านคน เติบโตร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แม้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยจะติดลบร้อยละ 8.8  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังเติบโตถึงร้อยละ 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

นายกลินท์ กล่าวว่า  หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (6 พ.ย.) ประกาศมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ให้กับ 21 ประเทศช่วงนี้จะส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงการเดินทางไปจีนของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนจีน เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวประเทศไทย

นายกลินท์ กล่าวเพิมเติมว่า ตามที่ภาครัฐจัดทำโครงการ Regulatory Guillotine เพื่อปรับปรุงกฎหมายที่สำคัญนั้น กกร.ขอเสนอให้ภาครัฐจัดลำดับความสำคัญในการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับความต้องการด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เช่น เน้นเรื่องเพิ่มปริมาณการค้าชายแดน 

นายกลินท์ กล่าวว่า กกร.ยังต้องการให้รัฐบาลจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) อย่างน้อยปีละครั้ง โดยหวังว่าจะมีการจัดประชุม กรอ.ต้นปีหน้า เพราะที่ผ่านมารัฐบาลนี้ไม่เคยจัดประชุม กรอ.ชุดใหญ่เลย สำหรับสิ่งที่ต้องการจากภาครัฐ ได้แก่ ยกเลิกการกรอกเอกสาร ตม.6 ของต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งภาครัฐยังติดขัดงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการ  ส่วนมาตรการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ภาคเอกชนต้องการให้ปรับนโยบายส่งเสริมการลงทุน โดยเน้นให้ความสำคัญภาคบริการมากขึ้น จากปัจจุบันเน้นภาคการผลิตเป็นหลัก เพราะ กกร.มองว่าในอนาคตภาคบริการของประเทศจะเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ  55 ของจีดีพีประเทศ ด้านโครงการประชารัฐขณะนี้ยังติดขัดแม้จะมีงบประมาณ แต่ยังคงติดข้อจำกัดอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการดูแลอีก เป็นต้น . -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]