ผู้การสั่งรื้อคดีเด็กหญิงรุมตบ 4 ต่อ 1 จนตกน้ำ

บึงกาฬ 1 พ.ย.-ผู้การบึงกาฬ สั่งตำรวจสอบสวนคดี เด็กหญิง 14 ปี 4 คน รุมตบ เด็กหญิง 16 ปี อีกครั้ง หลังมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ขณะที่แม่ย้ำเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เรียกร้องพ่อ-แม่เด็กรับผิดชอบ


กรณีที่เฟซบุ๊ก  Social Hunter V.ss เผยแพร่เรื่องราวเด็กวัยรุ่นกลุ่ม 1 ราว 4-5 คนกำลังร้ายร่างกายคู่กรณีหญิงวัย 16 ปี แคปชั่น นี้หรอสังคมไทย น้องสาวโดนรุมตี 4 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 พร้อมระบุ ว่าไงครับ สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ทำไรมากกว่านี้ไม่ได้หรอ เอาพ่อแม่มัน มารับแทนซิ #เลี้ยงลูกไม่ใช่แค่สอนให้มันดีควรดูแลพฤติกรรมมันด้วย


หลังมีกระแสจากสังคม ล่าสุด พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สนง.คุมประพฤติจังหวัดบึงกาฬ ยุติธรรมจังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอโซ่พิสัย ลงพื้นที่สภ.โซ่พิสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 นางประนอม อายุ 47 ปี ได้พา ลูกสาว อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกกลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่น 4-5 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จึงส่งตัวไปให้แพทย์ รพ.โซ่พิสัย ทำการตรวจร่างกาย ผลการตรวจของหมอออกมาว่าไม่พบบาดแผล พบกล้ามเนื้ออักเสบบางแห่ง ไม่มีกระดูกหักรักษาด้วยการให้ยา 3-5 วันคงปกติ จากนั้นได้ติดตามกลุ่มที่รุมทำร้ายมาสอบปากคำ และต้องลงกัน ซึ่งในวันนั้นทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่เอาเรื่องกันขอแค่เพียงให้อีกฝ่ายที่ถูกกระทำได้อบรมนิสัยเท่านั้น ซึ่งคลิปเห็นการณ์ที่รุมทำร้ายกันในวันนั้นไม่มี เมื่อตกลงกันได้ก็ปล่อยให้กับบ้านทั้งสองฝ่าย

พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและรับฟังคดีและตรวจดูคลิปจากร้อยเวรเรียบร้อยแล้ว จึงสั่งการให้ตำรวจสอบสวนคดีขึ้นใหม่ โดยนำตัวเยาวชนทั้ง 4 มาดำเนินคดีทางกฎหมายเพราะเป็นความผิดชัดเจน และจะได้เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนอีกครั้ง ถึงข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปมีมากกว่านั้นหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นตั้งข้อหาเยาวชนหญิงทั้ง 4 คน(อายุ 13 จำนวน 1 คนและอายุ 14 จำนวน 3 คน)ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและส่งให้สถานพินิจควบคุมตัว ส่วนคนที่เหลือจะเรียกมาสอบสวนอีก หากมีความผิดก็จะดำเนินการเช่นกัน สอบถามเด็กทั้ง 4 คน รับว่าไม่ได้โพสต์คลิปดังกล่าว เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีที่ส่งไปเยาะเย้ยกัน จนทำให้พี่สาวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวแล้วไม่พอใจ  จึงโพสต์ผ่านโซเซียลตามที่เป็นข่าวออกไป ซึ่งตำรวจ สภ.โซ่พิสัย กระทำตามขั้นตอนทุกอย่างเมื่อตกลงกันได้ ก็ปล่อยกับบ้าน แต่คลิปที่ออกมาทีหลังเป็นหลักฐานชัดที่จะแจ้งความผู้กระทำผิด และดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่เกี่ยวข้องต่อไป 


หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หมูน้อย ตัวอ้วน” โพสต์คลิปพร้อมเล่าเหตุการณ์น้องสาวของเธอถูกกลุ่มวัยรุ่นหญิงรุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เธอพาน้องสาวกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วไปช่วยเพื่อนหยอดน้ำกรดที่สวนยาง จากนั้นมีเพื่อนมารับไปกินส้มตำ พอกินเสร็จเพื่อนก็พาน้องสาวที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง อ้างว่านัดกับเพื่อนไว้ แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นใคร น้องสาวจึงบอกเพื่อนว่าขอกลับบ้าน แต่แล้วก็มีกลุ่มผู้หญิงอายุประมาณ 14-15 ปี 4 คน ขี่รถจยย.มาหาน้องสาวแล้วบอกว่าลูกพี่สั่งให้มาจัดการ จากนั้นก็รุมตบตี ทำร้ายร่างกาย โดยที่น้องสาวไม่มีทางสู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 พื้นที่ สภ.โซ่พิสัย 

น.ส.มายด์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ทราบว่าวันเกิดเหตุตนกลับบ้าน ที่ จ.บึงกาฬ เพื่อนชวนไปทานข้าวเที่ยง หลังจากทานข้าวเสร็จเพื่อนคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่ามีเพื่อนคนหนึ่งรอเจออยู่ เป็นเพื่อนสนิท เมื่อตนไปตามที่บอกแต่ไม่เจอ แต่มีกลุ่มคนที่รุมทำร้ายขับรถจยย.มา เข้ามาถามตนว่าจะเอายังไงลูกพี่เขาสั่งมา ไม่จัดไม่ได้แล้ว และถามตนว่าจะเอาเดี่ยวหรือรุม ตนก็พยายามจะขอตัวกลับบ้าน แต่กลุ่มนั้นก็รุม ตนและเพื่อนที่พาไปไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อก่อนก็สนิทกันรู้จักกันเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกัน ปกติเมื่อก่อนตนอยู่ที่ จ.บึงกาฬ เพิ่งจะย้ายมาอยู่ จ.นนทบุรี ได้ 1 ปี ตอนนี้ตนไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว คนกลุ่มนั้นไม่ได้บอกว่ามาทำร้ายตนทำไมแต่บอกแค่ว่าลูกพี่เขาสั่งมาแค่นั้น เพื่อนตนที่ไปด้วยก็ไม่กล้าช่วยเพราะกลัวเด็กกลุ่มนั้นทำร้ายเหมือนกัน ตนถูกทำร้ายเป็นรอยข่วนและช้ำตามร่างกาย ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เอาผิดเขาไม่ได้เพราะตำรวจบอกว่ากลุ่มเขาอายุไม่ถึง 18 ปี แม่หลังเห็นคลิปภายหลัง แม่เสียใจมาก ร้องไห้ แม่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไปแจ้งความอีก สภาพจิตใจตนตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่คนกลุ่มนั้นก็ยังส่งแชทมาข่มขู่ว่าถ้าเจออีกตายแน่ ตนเสียความรู้สึกที่ไว้ใจเพื่อนมาก ตอนนี้กลัวไม่กล้าที่กลับไปบ้าน อยากให้ตำรวจทำคดีนี้ให้ยุติธรรม เพราะตนเจ็บตัวฟรี อยากเตือนเพื่อนๆหรือน้องๆว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครให้คิดว่าเป็นตัวเอง ส่วนเรื่องคดีต้องถามแม่และพี่สาวว่าจะทำอย่างไรต่อ ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องที่แฟนเก่าของแฟนที่ตนเลิกไปสั่งคนมาทำร้ายตน

ด้าน นางประนอม เหล่าสุนา อายุ 48 ปี มารดาน้องมายด์ เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มที่ทำความรุนแรงกับลูกตน ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ครั้งแรกที่แจ้งความลงบันทึกประจำวันครั้งแรกเพราะตนอยากให้โอกาสเด็ก หลังจากกลับมาที่ จ.นนทบุรี ตนจึงเห็นคลิปที่ลูกถูกทำร้าย ตนเสียใจมากอยากให้พ่อแม่เด็กออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ ตนไม่ได้อยากได้เงิน ตนอยากให้เด็กกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดี เพราะอายุแค่ 14 ปียังทำแบบนี้ โตขึ้นจะเป็นอย่างไร อาการลูกตนมีใบแพทย์ออกมาว่ามีร่องรอยทำร้ายและเส้นเลือดในสมองช้ำ ครั้งแรกที่กลุ่มเด็กมาที่โรงพักตนไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี ทางตำรวจแจ้งแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ลูกตนก็ถูกทำร้ายฟรี ถ้าถูกกดน้ำตายไปจะทำอย่างไร หลังสอบสวนเสร็จก็แยกย้ายไป และไม่มีการขอโทษ หลังจากเห็นคลิปตนยอมไม่ได้ ถ้าเป็นลูกเขาจะทำอย่างไร ตนจะกลับไปแจ้งความและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไปทุกหน่วยงานที่ไปได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากรุ่นพี่คนหนึ่ง สามีเขาได้มาติดต่อกับน้องมายด์แต่หลังจากนั้นน้องมายด์ก็ย้ายมาอยู่นนทบุรี คนชื่อมิลล์หาว่าน้องมายด์แย่งสามีเขา แต่ตนยืนยันว่าน้องมายด์ไม่เคยติดต่อกับผู้ชายคนนั้น เพราะหลังจากออกจากโรงเรียนตนได้พาน้องมายด์มาอยู่ที่นี่ ไม่ได้เจอกับผู้ชายคนนั้น อยากให้ผู้ปกครองเด็กกลุ่มนั้นดูแลลูกและสั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ ตนอยากได้ความยุติธรรมให้ลูกตน ตนไม่อยากได้เงิน หลังจากตนไปแจ้งความยังมีการเขียนข่มขู่มาอีกและหาว่าตนกระจอกมากที่เดินเรื่องให้ลูกได้แค่นี้ ตำรวจที่นั้นก็เฉยเมย ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรุนแรงเกินไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.