ผู้การสั่งรื้อคดีเด็กหญิงรุมตบ 4 ต่อ 1 จนตกน้ำ

บึงกาฬ 1 พ.ย.-ผู้การบึงกาฬ สั่งตำรวจสอบสวนคดี เด็กหญิง 14 ปี 4 คน รุมตบ เด็กหญิง 16 ปี อีกครั้ง หลังมีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ขณะที่แม่ย้ำเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เรียกร้องพ่อ-แม่เด็กรับผิดชอบ


กรณีที่เฟซบุ๊ก  Social Hunter V.ss เผยแพร่เรื่องราวเด็กวัยรุ่นกลุ่ม 1 ราว 4-5 คนกำลังร้ายร่างกายคู่กรณีหญิงวัย 16 ปี แคปชั่น นี้หรอสังคมไทย น้องสาวโดนรุมตี 4 ต่อ 1 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 พร้อมระบุ ว่าไงครับ สภ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ทำไรมากกว่านี้ไม่ได้หรอ เอาพ่อแม่มัน มารับแทนซิ #เลี้ยงลูกไม่ใช่แค่สอนให้มันดีควรดูแลพฤติกรรมมันด้วย


หลังมีกระแสจากสังคม ล่าสุด พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สนง.คุมประพฤติจังหวัดบึงกาฬ ยุติธรรมจังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอโซ่พิสัย ลงพื้นที่สภ.โซ่พิสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าวเกิดเหตุขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 นางประนอม อายุ 47 ปี ได้พา ลูกสาว อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกกลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่น 4-5 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ จึงส่งตัวไปให้แพทย์ รพ.โซ่พิสัย ทำการตรวจร่างกาย ผลการตรวจของหมอออกมาว่าไม่พบบาดแผล พบกล้ามเนื้ออักเสบบางแห่ง ไม่มีกระดูกหักรักษาด้วยการให้ยา 3-5 วันคงปกติ จากนั้นได้ติดตามกลุ่มที่รุมทำร้ายมาสอบปากคำ และต้องลงกัน ซึ่งในวันนั้นทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่เอาเรื่องกันขอแค่เพียงให้อีกฝ่ายที่ถูกกระทำได้อบรมนิสัยเท่านั้น ซึ่งคลิปเห็นการณ์ที่รุมทำร้ายกันในวันนั้นไม่มี เมื่อตกลงกันได้ก็ปล่อยให้กับบ้านทั้งสองฝ่าย

พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและรับฟังคดีและตรวจดูคลิปจากร้อยเวรเรียบร้อยแล้ว จึงสั่งการให้ตำรวจสอบสวนคดีขึ้นใหม่ โดยนำตัวเยาวชนทั้ง 4 มาดำเนินคดีทางกฎหมายเพราะเป็นความผิดชัดเจน และจะได้เรียกผู้เสียหายมาสอบสวนอีกครั้ง ถึงข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปมีมากกว่านั้นหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นตั้งข้อหาเยาวชนหญิงทั้ง 4 คน(อายุ 13 จำนวน 1 คนและอายุ 14 จำนวน 3 คน)ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและส่งให้สถานพินิจควบคุมตัว ส่วนคนที่เหลือจะเรียกมาสอบสวนอีก หากมีความผิดก็จะดำเนินการเช่นกัน สอบถามเด็กทั้ง 4 คน รับว่าไม่ได้โพสต์คลิปดังกล่าว เป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีที่ส่งไปเยาะเย้ยกัน จนทำให้พี่สาวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวแล้วไม่พอใจ  จึงโพสต์ผ่านโซเซียลตามที่เป็นข่าวออกไป ซึ่งตำรวจ สภ.โซ่พิสัย กระทำตามขั้นตอนทุกอย่างเมื่อตกลงกันได้ ก็ปล่อยกับบ้าน แต่คลิปที่ออกมาทีหลังเป็นหลักฐานชัดที่จะแจ้งความผู้กระทำผิด และดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่เกี่ยวข้องต่อไป 


หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หมูน้อย ตัวอ้วน” โพสต์คลิปพร้อมเล่าเหตุการณ์น้องสาวของเธอถูกกลุ่มวัยรุ่นหญิงรุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา เธอพาน้องสาวกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วไปช่วยเพื่อนหยอดน้ำกรดที่สวนยาง จากนั้นมีเพื่อนมารับไปกินส้มตำ พอกินเสร็จเพื่อนก็พาน้องสาวที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง อ้างว่านัดกับเพื่อนไว้ แต่พอไปถึงก็ไม่เห็นใคร น้องสาวจึงบอกเพื่อนว่าขอกลับบ้าน แต่แล้วก็มีกลุ่มผู้หญิงอายุประมาณ 14-15 ปี 4 คน ขี่รถจยย.มาหาน้องสาวแล้วบอกว่าลูกพี่สั่งให้มาจัดการ จากนั้นก็รุมตบตี ทำร้ายร่างกาย โดยที่น้องสาวไม่มีทางสู้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 พื้นที่ สภ.โซ่พิสัย 

น.ส.มายด์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ทราบว่าวันเกิดเหตุตนกลับบ้าน ที่ จ.บึงกาฬ เพื่อนชวนไปทานข้าวเที่ยง หลังจากทานข้าวเสร็จเพื่อนคนดังกล่าวได้บอกกับตนว่ามีเพื่อนคนหนึ่งรอเจออยู่ เป็นเพื่อนสนิท เมื่อตนไปตามที่บอกแต่ไม่เจอ แต่มีกลุ่มคนที่รุมทำร้ายขับรถจยย.มา เข้ามาถามตนว่าจะเอายังไงลูกพี่เขาสั่งมา ไม่จัดไม่ได้แล้ว และถามตนว่าจะเอาเดี่ยวหรือรุม ตนก็พยายามจะขอตัวกลับบ้าน แต่กลุ่มนั้นก็รุม ตนและเพื่อนที่พาไปไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อก่อนก็สนิทกันรู้จักกันเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกัน ปกติเมื่อก่อนตนอยู่ที่ จ.บึงกาฬ เพิ่งจะย้ายมาอยู่ จ.นนทบุรี ได้ 1 ปี ตอนนี้ตนไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว คนกลุ่มนั้นไม่ได้บอกว่ามาทำร้ายตนทำไมแต่บอกแค่ว่าลูกพี่เขาสั่งมาแค่นั้น เพื่อนตนที่ไปด้วยก็ไม่กล้าช่วยเพราะกลัวเด็กกลุ่มนั้นทำร้ายเหมือนกัน ตนถูกทำร้ายเป็นรอยข่วนและช้ำตามร่างกาย ตนได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แต่เอาผิดเขาไม่ได้เพราะตำรวจบอกว่ากลุ่มเขาอายุไม่ถึง 18 ปี แม่หลังเห็นคลิปภายหลัง แม่เสียใจมาก ร้องไห้ แม่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไปแจ้งความอีก สภาพจิตใจตนตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แต่คนกลุ่มนั้นก็ยังส่งแชทมาข่มขู่ว่าถ้าเจออีกตายแน่ ตนเสียความรู้สึกที่ไว้ใจเพื่อนมาก ตอนนี้กลัวไม่กล้าที่กลับไปบ้าน อยากให้ตำรวจทำคดีนี้ให้ยุติธรรม เพราะตนเจ็บตัวฟรี อยากเตือนเพื่อนๆหรือน้องๆว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครให้คิดว่าเป็นตัวเอง ส่วนเรื่องคดีต้องถามแม่และพี่สาวว่าจะทำอย่างไรต่อ ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นเรื่องที่แฟนเก่าของแฟนที่ตนเลิกไปสั่งคนมาทำร้ายตน

ด้าน นางประนอม เหล่าสุนา อายุ 48 ปี มารดาน้องมายด์ เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มที่ทำความรุนแรงกับลูกตน ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ครั้งแรกที่แจ้งความลงบันทึกประจำวันครั้งแรกเพราะตนอยากให้โอกาสเด็ก หลังจากกลับมาที่ จ.นนทบุรี ตนจึงเห็นคลิปที่ลูกถูกทำร้าย ตนเสียใจมากอยากให้พ่อแม่เด็กออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ ตนไม่ได้อยากได้เงิน ตนอยากให้เด็กกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดี เพราะอายุแค่ 14 ปียังทำแบบนี้ โตขึ้นจะเป็นอย่างไร อาการลูกตนมีใบแพทย์ออกมาว่ามีร่องรอยทำร้ายและเส้นเลือดในสมองช้ำ ครั้งแรกที่กลุ่มเด็กมาที่โรงพักตนไม่ได้พูดคุยกับคู่กรณี ทางตำรวจแจ้งแค่เรื่องทะเลาะวิวาท ลูกตนก็ถูกทำร้ายฟรี ถ้าถูกกดน้ำตายไปจะทำอย่างไร หลังสอบสวนเสร็จก็แยกย้ายไป และไม่มีการขอโทษ หลังจากเห็นคลิปตนยอมไม่ได้ ถ้าเป็นลูกเขาจะทำอย่างไร ตนจะกลับไปแจ้งความและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไปทุกหน่วยงานที่ไปได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากรุ่นพี่คนหนึ่ง สามีเขาได้มาติดต่อกับน้องมายด์แต่หลังจากนั้นน้องมายด์ก็ย้ายมาอยู่นนทบุรี คนชื่อมิลล์หาว่าน้องมายด์แย่งสามีเขา แต่ตนยืนยันว่าน้องมายด์ไม่เคยติดต่อกับผู้ชายคนนั้น เพราะหลังจากออกจากโรงเรียนตนได้พาน้องมายด์มาอยู่ที่นี่ ไม่ได้เจอกับผู้ชายคนนั้น อยากให้ผู้ปกครองเด็กกลุ่มนั้นดูแลลูกและสั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ ตนอยากได้ความยุติธรรมให้ลูกตน ตนไม่อยากได้เงิน หลังจากตนไปแจ้งความยังมีการเขียนข่มขู่มาอีกและหาว่าตนกระจอกมากที่เดินเรื่องให้ลูกได้แค่นี้ ตำรวจที่นั้นก็เฉยเมย ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรุนแรงเกินไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา