อุดรธานี 1 พ.ย.-สาวผวา! โรคจิตย่องขโมยชุดชั้นใน เอาไปสำเร็จความใคร่ ก่อนนำมาคืน ตำรวจเร่งนำคราบอสุจิตรวจดีเอ็นเอ
วันนี้ เวลา 14.00 น. พ.ต.ท.วิฑูรย์ ศรีชาย สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งความจาก น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 26 ปี ชาว ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่ามีชายโรคจิต เข้ามาขโมยเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่ตากไว้ข้างหน้าต่าง ในหอพักแห่งหนึ่งที่เช่าอยู่กับน้องสาว ในซอยอดุลยเดช 2 เขตเทศบาลนครอุดรธานี แล้วชายคนดังกล่าวนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในไปสำเร็จความใคร่ ทำให้ตนหวาดกลัวจะเกิดอันตรายกับตัวเองและน้องสาวเป็นอย่างมาก
หลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ศรีชาย สว.สอบสวน ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เป็นหอพัก 3 ชั้น ซึ่งห้องของผู้เสียหายเช่าอยู่ที่ชั้น 3 หน้าบันได และพาไปชี้จุดที่ผู้เสียหายตากเสื้อผ้าและชุดชั้นใน ที่ระเบียงข้างหน้าต่าง ที่ถูกชายโรคจิตมาแอบขโมยไป แล้วนำไปสำเร็จความใคร่ ก่อนจะนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในของผู้เสียหาย มาวางกองทิ้งไว้ข้างหน้าต่าง ซึ่งมีคราบคล้ายอสุจิเปื้อนบนเสื้อผ้าและชุดชั้นใน
น.ส.เอ นามสมมุติ ให้การว่า ตนทำงานเป็นเซลส์ขายอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ โดยได้มาเช่าหอพักแห่งนี้อยู่กับน้องสาวมาแล้วหลายปี ต่อมาเจ้าของหอพักตรวจสอบกล้องวงจรปิดและส่งคลิปวีดีโอให้ เป็นภาพชายวัยรุ่น สวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีกรมท่า มีแถบตรงแจนสีเหลือง มีเลข 69 อยู่ด้านหน้า มีฮู้ดครอบศีรษะ กางเกงวอร์มสีดำ ไม่สวมรองเท้า เดินเซคล้ายคนเมา อยู่บนชั้น 3 เดินไปเกือบสุดทาง แล้วเอื้อมมือล้วงเสื้อผ้าและชุดชั้นในของตนที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อออกมา แล้วชายคนดังกล่าวได้เดินย้อนกลับ นำมาทิ้งไว้ข้างหน้าต่าง ก่อนที่จะเดินและวิ่ง เข้าไปในห้องพักของเพื่อน ที่พักอยู่ห้องสุดท้าย พอรุ่งเช้าตนจึงได้มาดูที่ระเบียง เห็นเสื้อผ้าและชุดชั้นใน วางอยู่ซึ่งก็มีคราบคล้ายอสุจิติดอยู่ที่เสื้อผ้าและชุดชั้นในด้วย
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ตนปรึกษากับน้องสาว และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน เพราะตนและน้องหวาดกลัว อยากให้ตำรวจนำตัวชายโรคจิตคนนี้มาดำเนินคดี ซึ่งนับว่าเคราะห์ดีในคืนเกิดเหตุล็อกห้องพักเอาไว้ และไม่เปิดประตูออกไป ถ้าตนออกไปไม่รู้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับตน ต่อไปคงจะไม่นอนอยู่ห้องพักคนเดียวแล้ว เพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
พ.ต.ท.วิฑูรย์ ศรีชาย สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ขอตรวจยึดเสื้อผ้าและชุดชั้นในของผู้เสียหาย เพื่อนำคราบคล้ายอสุจิไปตรวจหาดีเอ็นเอ พร้อมกับจะได้เรียกตัวเจ้าของห้องพักห้องสุดท้าย ที่ผู้เสียหายและกล้องวงจรปิดเห็นชายคนนี้เข้าไปในห้อง มาทำการสอบปากคำ ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร เพื่อจะติดตามตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย