เตรียมตั้งบำเพ็ญกุศล “เจ้าสัววิชัย” ณ ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทร์

กรุงเทพฯ, ปทุมธานี 31 ต.ค.-ศพของ “เจ้าสัววิชัย” รวมถึงทีมสตาฟฟ์คนไทยที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการขอรับศพกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทย โดยมีรายงานว่าศพของ “เจ้าสัววิชัย” จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเทพศิรินทราวาสฯ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ระบุว่า ได้รับการติดต่อจากญาติผู้เสียชีวิตจะขอใช้ศาลา 11 กวีนิรมิต ซึ่งเป็นศาลากลางน้ำ เป็นที่ตั้งสวดบำเพ็ญกุศลนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า  ญาติจะนำศพกลับมาเมืองไทยได้ในวันใด แต่วัดเตรียมสถานที่พร้อมไว้แล้ว และจะไม่เปิดรับงานอื่น


เช่นเดียวกับที่ปทุมธานี ญาติของ น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ หรือ “น้องจุ๋ม” อดีตรองมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ปี 2005 สตาฟฟ์ผู้ช่วยของนายวิชัย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ร่วมกันทำความสะอาดศาลาสวนพระอภิธรรมและฌาปนสถาน วัดเพิ่มทาน ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง โดยมีรถฉีดน้ำจาก อบต.คลองสี่ ได้มาฉีดพื้นทำความสะอาดและกางเต็นท์เพื่อรอรับศพ โดยบิดาของผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างประสานงานรับศพลูกสาวกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา คาดว่าอย่างเร็วที่สุดจะถึงไทยในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน

ด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ขั้นตอนทั่วไปของการส่งศพจากต่างประเทศกลับไทยนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ในต่างประเทศพร้อมอำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน


โดยขั้นตอนสำคัญ จะเริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่บริษัทรับจัดการศพขอใบรายงานการเสียชีวิตจากแพทย์ และขอหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ในประเทศนั้นๆ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับศพกับทางการท้องถิ่น อาทิ การขอผลชันสูตรศพ และหนังสือรับรองการตาย จากนั้นสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุล จะพิจารณาออกใบมรณบัตรไทย เมื่อได้รับการแจ้งตายโดยญาติตามแต่กรณี โดยจะมีเอกสารต่างๆ บัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน รวมถึงหนังสือเดินทางของผู้ตาย ซึ่งสถานเอกอัคราชทูตอาจพิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางผู้ตาย ก่อนที่บริษัทรับจัดการศพจะติดต่อสายการบินเพื่อออกบัตรโดยสารส่งกลับ ซึ่้งจะมีการนําสําเนามรณบัตรปิดไว้บนฝาโลงศพ

หลังจากนั้นจะเป็นพิธีการทางศุลกากรในการนำศพเข้ามาในประเทศ ใช้เอกสารหลักฐานทั้งพาสปอร์ตผู้เสียชีวิต, ต้นฉบับหรือสำเนาของใบนำส่งทางอากาศยาน รวมถึงใบมรณบัตรไทย ที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ออกให้ และใบรับรองสาเหตุการเสียชีวิตต่างๆ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”