สั่งผู้ว่าฯ-ทุกหน่วยงานเข้าสื่อโซเชียลแก้ปัญหาประชาชน

มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย  30 ต.ค.-นายกฯ เผยเตรียมดูความเหมาะสมปลดล็อกพรรคการเมือง สั่งผู้ว่าฯ-ทุกกระทรวงเข้าสื่อโซเชียลประยุทธ์ จันทร์โอชาแก้ปัญหาที่ประชาชนร้องมา 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่เรื่องความชัดเจนปลดล็อกพรรคการเมืองภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แบ่งเลือกตั้งแล้วหรือไม่ ว่า เตรียมการไว้แล้ว  แต่จะเป็นเดือนพฤศจิกายนหรือต้นเดือนธันวาคม ขอดูช่วงเวลาที่เหมาะสม ช่วงนี้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายรวบรวมไว้ทั้งหมดและหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

“ต่างคนก็ต้องต่างฟัง ผมก็จะทนและจะฟังให้มากที่สุด ถ้าท่านพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่ใช่พูดในทำนองที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดความสับสนอลหม่าน เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปด้วยดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเริ่มเปิดรายชื่อผู้ที่จะถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมจะเปิดตัวเมื่อใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคการเมืองใดจะเสนอใครก็ว่ากันไป ส่วนตนยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับใคร และยังไม่มีกำหนดเวลา ว่าต้องเมื่อใด และขณะนี้ยังไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง 

“ถ้าถึงเวลา ถ้าผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก อยากให้ดูว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรมากกว่า และไปดูว่ารัฐบาลต่อไปจะทำอะไร ทำได้มากกว่าที่ผมทำหรือไม่ เพราะฉะนั้นขอร้องว่าอย่าไปฟังว่าไอ้นั่นจะทำ ไอ้นี่จะไม่ทำ เลิกเสียที ทำใหม่เพราะมันไม่ง่ายนักหรอก ถ้าทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างที่ผมทำอยู่ในเวลานี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

ส่วนที่ขณะนี้มีเสียงสะท้อนเชิงลบจะมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะฟังเสียงสะท้อนทั้งเชิงลบและเชิงบวก แต่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของตน เหตุผลที่จะทำให้ตัดสินใจอยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การบริหารประเทศภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ติดตามตลอดเวลา และหวังว่าประชาชนและข้าราชการจะเข้าใจว่าวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ 


“ผมมอบหมายให้สำนักโฆษกกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ติดตามความคิดเห็นต่าง ๆ ที่เข้ามาในช่องทางการสื่อสารของผม บางเรื่องอาจจะมีตอบคำถามแทนผมด้วย เพราะบางเรื่องผมไม่สามารถตอบได้ รู้เพียงหลักการและนโยบาย รายละเอียดการปฏิบัติหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องตอบแทนได้ เฟซบุ๊กของนายกฯ เป็นฐานข้อมูลกลางและสื่อกลางเพิ่มเติมจากช่องทางของกระทรวงต่าง ๆ” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

เมื่อถามถึงคำทำนายของหมอดูที่ระบุว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ รวมถึงแฟนคลับชาวเชียงใหม่ต้องการให้ไปลงพื้นที่ และนายกรัฐมนตรีรับปากไปนั้นจะเป็นช่วงเวลาใด หรือต้องรอเข้าสู่เวทีทางการเมืองแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “คำถามที่พวกท่านถามมาเวิ่นเว้อ เป็นการเมืองทั้งสิ้น ขี้เกียจตอบ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับผมหรือใครทั้งสิ้น” 

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะปรับช่องทางการสื่อสารหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีการบิดเบือนข้อมูล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม เพราะคนที่เสนอข่าวข้อมูลเป็นคนเดิม โดยเฉพาะสื่อมวลชนยังเป็นแบบเดิม จึงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อแถลงเสร็จ นายกรัฐมนตรีเดินผ่านกลุ่มสื่อมวสชน ซึ่งถามต่อว่า วันนี้เหนื่อยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เหนื่อย 

ส่วนอาการบาดเจ็บที่นิ้วมือด้านขวาซ้น ซึ่งพยาบาลได้พันผ้าให้ในลักษณะเฝือกอ่อนเต็มฝ่ามือ โดยคาดว่ามาจากการที่นายกรัฐมนตรีจับเชือกโล้ชิงช้าระหว่างลงพื้นที่ เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) รวมทั้งระหว่างพบปะชาวบ้านได้จับมือกับชาวบ้าน  ซึ่งชาวบ้านบางคนไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีเจ็บมือจึงจับอย่างเต็มที่  

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุญญกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงว่า  นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปในเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา หรือให้ชี้แจงในเรื่องดังกล่าว  แต่ในส่วนของช่องข้อความส่วนตัวนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตอบเอง.-สำนักข่าวไทย     

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]