การค้าไทย-อาเซียนโตกว่าร้อยละ 14

กรุงเทพฯ  28 ต.ค. – กรมเจรจาฯ เผย AFTA ช่วยดันการค้าไทย-อาเซียน เติบโตต่อเนื่องกว่าร้อยละ 14 ในปี 2561


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนในฐานะกลุ่มประเทศที่มีการจัดทำเขตการค้าเสรี หรือ FTA ฉบับแรกของไทย ตั้งแต่ปี 2536 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่าการค้ารวมระหว่างกันสูงถึง 85,127.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 14.7 แบ่งเป็นการส่งออก 51,036.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.6 และนำเข้า 34,090.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 โดยอาเซียนยังครองตำแหน่งเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ด้วยสัดส่วนการค้ามากถึงร้อยละ 22.6 รองลงมาเป็นประเทศจีน  ร้อยละ 15.7 และญี่ปุ่น ร้อยละ 11.8

นางอรมน  กล่าวว่า จากการติดตามการใช้สิทธิประโยชน์จากการลดภาษีศุลกากรภายใต้ FTA ของอาเซียน (AFTA) ซึ่งอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ลดภาษีศุลกากรสินค้ากว่าร้อยละ 98-99 ของรายการสินค้าทั้งหมดเป็นร้อยละ 0 แล้ว โดย 6 ประเทศอาเซียนดั้งเดิม ได้แก่ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ลดเป็นร้อยละ 0 ตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) ลดเป็นร้อยละ 0 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 พบว่า ในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค.–ส.ค.) ของปี 2561 ไทยส่งออกสินค้าไปอาเซียนโดยใช้สิทธิภายใต้ AFTA มูลค่า 17,853.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 39.2 ของการส่งออกไทยไปโลก โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์และอุปกรณ์ น้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ 


สำหรับการนำเข้าสินค้าจากอาเซียน โดยใช้สิทธิ์ภายใต้ AFTA มูลค่า 6,241 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 20.5 ของการนำเข้าจากโลก โดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่า ไทยใช้สิทธิ์ AFTA ส่งสินค้าออกไปและนำเข้ามาจากอาเซียนเพิ่มขึ้น โดยใช้สิทธิ์ส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17 และใช้สิทธิ์นำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เนื่องจากไทยส่งออกไป CLMV เพิ่มขึ้นจากการลดภาษีศุลกากรในกรอบอาเซียนของ CLMV ประกอบกับสมาชิกอาเซียนพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น  

นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวาระที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนต่อจากสิงคโปร์ปี 2562 ถือเป็นโอกาสที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทยต่อผู้บริโภคอาเซียน เพื่อขยายลู่ทางการค้า โดยเฉพาะในเมืองใหม่ ๆ ของอาเซียนที่ผู้ส่งออกไทยยังไม่เคยเข้าไปทำตลาด ขณะเดียวกันไทยสามารถใช้เวทีการประชุมต่าง ๆ ของอาเซียนที่จะจัดขึ้นในไทย เพื่อแสวงหาความร่วมมือทางการค้าตลอดจนแสดงศักยภาพสินค้าและบริการของไทยสู่อาเซียนและชาวโลกด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก